โดย Genalyn Llorando - เผยแพร่เมื่อ มีนาคม 27, 2566
บทความโดย Genalyn P. Llorando ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศ – EIS Philippines
เราเฉลิมฉลองเดือนสตรีสากลด้วยธีม “Embracing Equity” ด้วยการขับเคลื่อนของผู้หญิงมาเป็นเวลานาน ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าการปฏิบัติต่อทุกคนในแนวทางเดียวกันนั้นไม่เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง
ความเสมอภาคหมายถึงการที่เราปฏิบัติต่อทุกคนในแนวทางเดียวกันโดยไม่เลือกปฏิบัติหรือมีอคติ เป็นการปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเคารพ กาลเทศะ วิธีการ และการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่คำนึงถึงสถานะ ภูมิหลัง ประเทศ เชื้อชาติ วัฒนธรรม สีผิว สถานภาพการสมรส ตำแหน่ง และอายุ
ถึงแม้ว่าความเสมอภาคจะหมายถึงการปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียมโดยการจัดหาวิธีการและทรัพยากรที่พวกเขาต้องการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันแม้จะมีความแตกต่างก็ตาม แต่เมื่อคำนึงถึงหลักความเป็นจริงที่ว่าทุกคนต่างมีความท้าทายและความต้องการที่แตกต่างกัน และพยายามที่จะจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นและการสนับสนุนเพื่อยกระดับความเสมอภาค ซึ่งไม่เพียงแต่ในหมู่เพศอื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสตรีในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอีกด้วย
เพื่อให้เห็นความแตกต่างระหว่างความเท่าเทียมและความเสมอภาค ฉันอยากให้ทุกคนลองจินตนาการสองสถานการณ์นี้ ลองจินตนาการว่าคนสองคนที่มีความสูงต่างกันต้องเอื้อมไปหยิบแก้วที่อยู่บนตู้ หากทั้งคู่ได้รับกล่องขนาดเดียวกันให้ยืน คนที่ตัวสูงกว่าจะเอื้อมหยิบได้สะดวกกว่า ส่วนคนที่ตัวเตี้ยกว่าจะเอื้อมไม่ถึง นี่คือความเท่าเทียมกัน - ทั้งสองคนได้รับกล่องขนาดเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ไม่ได้เหมือนกัน ในทางตรงกันข้าม หากคนที่ตัวเตี้ยกว่าได้รับกล่องที่สูงกว่าจะทำให้เขาสามารุหยิบแล้วได้ ซึ่งส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่เท่าเทียมและนั่นคือความเสมอภาค!
สรุปแล้ว ความเท่าเทียมคือการปฏิบัติต่อทุกคนแบบเดียวกัน ในขณะที่ความเสมอภาคคือการให้ทรัพยากรที่จำเป็นแก่ทุกคนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันแม้ทรัพยาการที่ให้ไปจะมีความแตกต่างกันก็ตาม นี่คือสิ่งที่ฉันได้เห็นตอนที่เข้าเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของเดลต้า ไต้หวัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากเดลต้าให้โอกาสและแนวทางแก่ฉันในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โซลูชั่นการกักเก็บพลังงาน และระบบการจัดการกริด
ฉันได้เดินชมกลุ่มผลิตภัณฑ์ในอดีตในโชว์รูมของเดลต้าตั้งแต่เริ่มต้นจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลังและวิธีการพัฒนาไปสู่เทคโนโลยีอัจฉริยะ ฉันรู้สึกทึ่งที่มีผู้หญิงหลายคนมีส่วนสนับสนุนความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเดลต้าในทุกวันนี้
ซันนี่ ลีและเจเน็ต เหยา เป็นบุคคลที่ฉันจะไม่พลาดโอกาสที่จะสัมภาษณ์ก่อนออกจากสำนักงานใหญ่เดลต้าเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาเริ่มต้นและประสบความสำเร็จ แล้วพวกเขาได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันและยอมรับความเท่าเทียมได้อย่างไร?
ซันนี่ ลี –ผู้จัดการ EVCS-DC LOB
เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ได้พูดคุยกับซันนี่ ลี ซึ่งเป็นผู้ดูแลธุรกิจ EVCS ที่โรงงานเดลต้า จงลี้ เธอทำงานกับเดลต้ามากว่า 25 ปี โดยเริ่มจากการเป็นตัวแทนฝ่ายขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ CIS กับทีมฝ่ายขายขนาดเล็กมากในตอนนั้นซึ่งมีเพียงเธอและหัวหน้าเท่านั้น แต่เธอสร้างชื่อเสียงได้เพราะเธอเป็นคนแรกที่พัฒนาระบบบัญชีใหม่ในโปแลนด์ โดยเธอสามารถจัดส่ง UPS สี่ตู้คอนเทนเนอร์ไปยังโปแลนด์ได้
ตามคำบอกเล่าของหัวหน้าเธอ เธอเป็นคนแรกในทีมที่ทำเช่นนั้นได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการปูทางไปสู่ความท้าทายใหม่ ๆ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในธุรกิจใหม่ ๆ
ตอนที่ฉันถามเธอเกี่ยวกับความยากลำบากที่เธอผ่านมา ซันนี่ตอบว่า “มันไม่ง่าย แต่ฉันไม่เคยจำกัดตัวเองในการไปถึงเป้าหมาย ตอนนี้ EVCS เป็นธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาและพร้อมรับความท้าทายกำลังพัฒนา ฉันรู้ว่าฉันต้องวางแผนและวางกลยุทธ์ล่วงหน้า”
เมื่อฉันถามเธอว่าเธอสามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการงานและชีวิตกับครอบครัวของเธอได้อย่างไร “ฉันคิดว่ามีหลายครั้งที่ฉันใช้เวลากับงานมากกว่าอยู่กับลูก ๆ เพราะงานแต่ละงานต้องใช้เวลา สำหรับฉันแล้วฉันรู้สึกเสียใจเพราะฉันคิดว่าตัวเองควรจัดการให้ดีกว่านี้ในแง่ของการสร้างสมดุลให้กับชีวิตการงานและชีวิตกับครอบครัว ฉันคิดว่านี่ไม่ใช่แค่ความกังวลของผู้หญิงเท่านั้นแต่รวมถึงผู้ชายด้วย ทุกคนควรมีสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ความสมดุลระหว่างเวลาและพลังงานที่คุณทุ่มเทให้กับงานของคุณ กับเวลาและพลังงานที่คุณทุ่มเทให้กับด้านอื่น ๆ ของชีวิต เช่น ครอบครัว งานอดิเรก และกิจกรรมยามว่าง” เธอตอบ
คำถามสุดท้าย ฉันถามซันนี่ว่าเธอจะให้คำแนะนำอะไรแก่ผู้หญิงในปัจจุบันและอนาคต เธอกล่าวว่า “อย่ากลัวที่จะยืนหยัดในสิ่งที่คุณคิดว่าถูกต้อง และถ้าคุณมีความคิดหรือมุมมองอื่น ๆ พูดมันออกมาให้ทุกคนได้ยิน!”
ผู้หญิงที่น่าสนใจอีกคนคือเจเน็ต เหยา เธอเป็นผู้ดูแล Delta Grid Management Portfolio ที่สำนักงาน Delta Taipei Neihu และทำงานให้กับเดลต้ามานานกว่า 10 ปี เธอเริ่มต้นกับเดลต้าด้วยจัดการธุรกิจอุปกรณ์เครือข่าย และต่อมาก็พัฒนาเป็นการจัดการระบบการจัดการกริด ฉันถามเธอว่าอะไรคือความท้าทายของเธอในช่วงเริ่มต้นอาชีพ เช่นเดียวกับคุณแม่ที่ต้องทำงานคนอื่น ๆ คือการโดนโทรเรียกกลางดึกเพื่อคุยลูกค้าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งนั่นทำให้เวลาของเธอกับลูกชายน้อยลง
“ฉันไม่มีเวลาที่จะเติบโตไปพร้อมกับพวกเขา แต่ฉันก็รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวกับครอบครัว” เธอกล่าวเสริม ขณะที่ฉันถามเธอว่ามีความท้าทายในการทำงานร่วมกับผู้ชายหรือไม่ เจเน็ตตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ฉันคิดว่าการต่อสู้หรือความรู้สึกแข่งขันแบบนี้มีอยู่เสมอ แต่บางครั้งฉันก็ไม่คิดว่ามันเป็นความท้าทายและไม่สบายใจสำหรับฉันเหมือนที่ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง”
การพูดคุยกับเจเน็ต เหยา ผู้จัดการฝ่ายขาย Grid Management System
“ดังนั้น ถ้าเราสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับคนรอบข้างและช่วยเหลือพวกเขา ชื่นชมพวกเขาและทำให้พวกเขามีความสุขที่ได้ทำงานร่วมกับคุณ ฉันเชื่อคุณจะแก้ปัญหาที่คุณมี ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งกับผู้อื่นได้ ดังนั้น ฉันคิดว่าการสื่อสารและความกระตือรือร้นค่อนข้างสำคัญเมื่อคุณทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง” นั่นคือความคิดเห็นของเธอสำหรับคำถามนี้
การได้พูดคุยกับผู้หญิงที่น่าสนใจสองคนนี้จากเดลต้า ไต้หวัน ซึ่งพวกเธอเปี่ยมไปด้วยสติปัญญาและประสบการณ์ และได้ให้ความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ฉันเห็นว่าพวกเธอไม่กลัวที่จะพูดความคิดเห็นและพร้อมรับความท้าทายหากได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ พวกเธอยังเป็นตัวอย่างในการโอบรับความเสมอภาคด้วยการทำงานหนักและทำงานอย่างชาญฉลาด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าเดลต้าได้มอบทรัพยากร การฝึกอบรม และพื้นที่สำหรับการเติบโตที่เพียงพอแก่พวกเธอและมีความสำคัญเท่าเทียมกับคนอื่น ๆ
ทุกวันนี้ คำว่าความเสมอภาคและความเท่าเทียมมักจะถูกแทนกัน แต่ก็ยังคงแสดงถึงแนวคิดที่แตกต่างกัน ผู้หญิงยังคงประสบกับความไม่เท่าเทียมที่สำคัญทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา แต่การต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางเพศตระหนักได้ว่าผู้หญิงแต่ละคนได้เจอประสบการณ์ที่แตกต่างกัน และจำเป็นต้องมีการแทรกแซงเฉพาะเพื่อแก้ไขความไม่เท่าเทียมทางเพศทั้งในอดีตและที่กำลังดำเนินอยู่