โดย DET Corp Comms - เผยแพร่เมื่อ มิถุนายน 23, 2568
สำหรับพวกเราที่เติบโตมาในศูนย์กลางเมืองที่มีการจราจรคับคั่งตั้งแต่เช้า เริ่มต้นวันด้วยเสียงนาฬิกาปลุกและจบวันด้วยการจราจรที่ติดขัด ไต้หวันเป็นประเทศที่ให้ความรู้สึกขัดแย้งอย่างสิ้นเชิง เกาะแห่งนี้ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามที่ละเอียดอ่อนไม่ได้รีบเร่งที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน แต่กลับดำเนินไปอย่างเรียบง่าย
ผมมาถึงที่นี่โดยคาดหวังว่าจะได้ทานอาหารรสเลิศ มีวัฒนธรรมที่ล้ำสมัย และมีความตรงต่อเวลาแบบเอเชียสมัยใหม่ แต่ที่นี่กลับต่างออกไปจากที่ผมคิด ผมได้พบกับประสบการณ์ที่ประทับใจมากกว่านั้นมาก นั่นคือ การสนทนาอย่างเงียบ ๆ กับคนแปลกหน้า ช่วงเวลาแห่งความสงบที่ไม่คาดคิด และความรู้สึกซาบซึ้งใจกับจังหวะชีวิตที่ช้าลงและมีจุดมุ่งหมายมากขึ้น
ตื่นนอนอย่างไม่เร่งรีบ
ไต้หวันประเทศที่ไม่เร่งรีบ ตื่นเช้ามายืดเส้นยืดสายแล้วเริ่มวันในตอนสายไปพร้อม ๆ กับเสียงรถสกู๊ตเตอร์ที่ค่อย ๆ เข้ามาแทนที่ความเงียบสงบของรุ่งอรุณ ในฐานะคนที่เกิดและเติบโตในใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเต็มไปด้วยความเร่งรีบ การที่ไทเปไม่มี “ชั่วโมงเร่งด่วน” แบบที่คุ้นเคยนั้นรู้สึกเหมือนการปฏิวัติเลยทีเดียว
จังหวะที่ช้าลงนี้ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของความขี้เกียจ แต่มันคือวัฒนธรรม สังคมไต้หวันมีรากฐานมาจากค่านิยมขงจื๊อ จึงสร้างสมดุลระหว่างความมีสติและความมีประสิทธิผล ซึ่งไม่มีที่ใดที่เห็นได้ชัดไปกว่าวัดต่าง ๆ ของไต้หวัน
ผมได้เดินเข้าไปเยี่ยมชมวัดหลายแห่ง บางวัดก็วิจิตรบรรจง บางวัดก็เรียบง่าย และพบว่าวัดเหล่านี้เต็มไปด้วยพิธีกรรม ธูปลอยขึ้นไปบนฟ้าในขณะที่ผู้บูชาสูงอายุเดินอย่างสง่าขณะสวดมนต์และถวายเครื่องบูชา แม้ว่าผมจะนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิกและเติบโตมาในประเทศไทย แต่ศาสนาพุทธก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมได้พบเห็นในไต้หวันนั้นให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน วัดเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงจังหวะทางวัฒนธรรมอีกด้วย
หน้าผาและหินกรวด
ทางตอนเหนือของไทเปคืออุทยานธรณีวิทยาเกาะเหอผิง ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาที่เกิดจากกระแสลมจากมหาสมุทรที่พัดผ่านมาหลายพันปี หินรูปร่างแปลกตาเหล่านี้ตั้งตระหง่านราวกับประติมากรรมที่ถูกแกะสลักโดยกาลเวลา เสียงดนตรีที่นี่ประกอบด้วยเสียงคลื่น นกทะเล และเสียงหินกรอบแกรบใต้รองเท้าของคุณ เป็นพื้นที่ที่ชวนให้คิดทบทวนสิ่งต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ
หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่นซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการทำเหมืองทองคำในช่วงที่ญี่ปุ่นยึดครองอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ตั้งอยู่บนเนินเขาในตรอกซอกซอยที่ประดับประดาด้วยโคมไฟ บันไดสูงชันจะนำคุณไปสู่ร้านน้ำชา แผงขายอาหารริมถนน และทัศนียภาพชายฝั่งอันกว้างไกล แฟน ๆ อนิเมะอาจจำหมู่บ้านนี้ได้ในฐานะแรงบันดาลใจของภาพยนต์เรื่อง Spirited Away แม้ว่าจะมีผู้คนพลุกพล่าน แต่หมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังคงรักษาความรู้สึกไร้กาลเวลาเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกช่วงเวลาจะสวยงามสมบูรณ์แบบเสมอไป ผมอยากลองชิมเสี่ยวหลงเปา (เกี๊ยวน้ำ) ชื่อดังในจิ่วเฟิ่น แต่กลับไม่ประทับใจ อาจเป็นเพราะเลือกร้านผิด หรือไม่ก็เพราะความคาดหวังทำให้รสชาติอาหารด้อยลง ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ถือเป็นการเตือนใจที่ดีว่าการเดินทางไม่ได้มีแค่ไฮไลท์ที่คัดสรรมาเท่านั้น แต่มันคือการสัมผัสประสบการณ์ที่แท้จริง
จดหมายรักแห่งอาหาร
มาพูดถึงก๋วยเตี๋ยวเนื้อ อาหารประจำชาติไต้หวันกันดีกว่า
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อไม่ได้เป็นเพียงอาหารเท่านั้น แต่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อยังเป็นอาหารแห่งความสบายใจอีกด้วย น้ำซุปใส ๆ รสเข้มข้นที่ผสมผสานรสชาติอย่างลงตัว เสิร์ฟมากับเส้นก๋วยเตี๋ยวนวดมือและเนื้อนุ่ม ๆ หลังจากที่กินไปคำแรกแล้ว ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นนี้อร่อยจนลืมไม่ลงจริง ๆ
จากนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็มาถึง นั่นก็คือไอศกรีมที่โรยหน้าด้วยต้นหอม ดูแปลกตาและมีเนื้อสัมผัสที่น่าแปลกใจ แต่รสชาตินั้นไม่ได้แปลกอย่างที่คิดไว้เลย สำหรับคนไทยที่คุ้นเคยกับไอศกรีมกะทิโรยหน้าด้วยของคาวแล้ว ไอศกรีมนี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคย แปลกนิดหน่อย แต่อร่อยแน่นอน
ที่ตลาดกลางคืนซีเหมินติง ผมอดใจไม่ไหวที่จะกินไส้กรอกไต้หวันที่หวาน หอมกลิ่นควัน และเค็มเล็กน้อย ผมบอกตัวเองว่าจะกินแค่ชิ้นเดียว แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น ตลาดนี้ไม่ใช่แค่สถานที่ขายอาหารเท่านั้น แต่เป็นโรงละครแห่งชีวิตประจำวันที่กลิ่นหอมพร้อมกับเสียงหัวเราะอบอวลในอากาศยามค่ำคืน
ผู้คนพูดมากกว่าคำพูด
ช่วงเวลาที่มีความหมายที่สุดของผมบางช่วงไม่ได้มาจากสถานที่ แต่มาจากผู้คน ผมพูดภาษาจีนกลางได้ไม่คล่องนัก ในพื้นที่ท้องถิ่น อาจเป็นอุปสรรคได้ แต่ในไต้หวันไม่ใช่เช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรมที่คอยดูแผนที่อย่างใจเย็นหรือคนขับแท็กซี่ที่ร่าเริงกับการบอกทาง ผมไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวเลย ทุกคนที่ผมพบพยายามสื่อสารกันอย่างกระตือรือร้น แม้จะได้พูดคุยกันเพียงไม่กี่คำ แต่นั้นเจตนาชัดเจน: ด้วยความยินดี ในสถานที่ที่ภาษาสามารถสร้างระยะห่างได้ แต่ความใจดีของทุกคนช่วยปิดช่องว่างนั้นได้
การเดินทางที่ราบลื่น
การเดินทางเริ่มต้นด้วยสายการบิน EVA Air ซึ่งเป็นสายการบินที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ตั้งแต่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่สุภาพเรียบร้อย เที่ยวบินที่ตรงต่อเวลา ไปจนถึงความใส่ใจในรายละเอียดบนเที่ยวบิน ซึ่งทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าการบริการที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องฟุ่มเฟือย แต่ต้องสม่ำเสมอ
ทำไมต้องไต้หวัน?
คนมักถามผมว่า “ไต้หวันน่าไปเที่ยวไหม”
ผมตอบว่า “จองตั๋วเครื่องบินก่อนเลย พอเครื่องลงแล้วเริ่มต้นด้วยก๋วยเตี๋ยวเนื้อ”
แต่นอกเหนือจากรสชาติและทัศนียภาพแล้ว ไต้หวันยังค่อย ๆ เปลี่ยนมุมมองของผม ทำให้ผมนึกย้อนไปว่าเราใช้ชีวิตไปอย่างรวดเร็ว ฟุ้งซ่าน และขาดการเชื่อมโยงกับโลกภายนอกบ่อยเพียงใด ในทางตรงกันข้าม ไต้หวันถูกสร้างมาเพื่อการมีตัวตน ที่ไต้หวันจะทำให้คุณหยุดพัก สังเกต และมีส่วนร่วม
ในฐานะที่เคยเป็นผู้นำการเดินทางของนักเรียนและเคยเดินป่าผ่านป่าฝนของไทย ผมจึงคาดหวังการผจญภัยที่เต็มไปด้วยเสียงดังและพลัง แต่ไต้หวันทำให้ผมเห็นว่ามันก็อ่อนโยนได้เช่นกัน บางครั้ง ช่วงเวลาที่มีความหมายลึกซึ้งที่สุดก็เป็นเพียงเสียงกระซิบ ไม่ใช่เสียงคำราม และเสียงกระซิบเหล่านั้นจะอยู่กับคุณตลอดไป