การเดินทางสู่จังหวัดกาญจนบุรี ชายแดนตะวันตกของประเทศไทย

กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันที่ 17 สิงหาคม 2565- จังหวัดกาญจนบุรีตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางตะวันตกประมาณ 100 กม. เป็นที่ตั้งของทางรถไฟสายมรณะและสะพานข้ามแม่น้ำแคว นอกจากสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว จังหวัดนี้ยังมีกิจกรรมการผจญภัยกลางแจ้ง รีสอร์ทริมแม่น้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่หลากหลายเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ผมกับครอบครัวได้เดินทางไปยังจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อใช้เวลา 3 วัน ในการพักผ่อนและหลีกหนีจากหมอกควันในเมือง มาร่วมเดินทางไปกับเราเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติและเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติที่ชายแดนไทย-พม่า

อำเภอไทรโยค

อำเภอไทรโยคตั้งอยู่ติดกับเขตชายแดนไทย-พม่า เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติไทรโยคซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่น น้ำตกไทรโยคและถ้ำละว้า นอกจากนี้ยังมีอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ซึ่งภายในมีวัดโบราณสถานแบบเขมร เนื่องจากการจราจรในช่วงวันหยุดยาวและตอนนี้ยังไม่มีทางด่วนจากกรุงเทพฯ ไปยังภาคตะวันตกของประเทศไทยจึงต้องใช้เวลาเดินทางกว่าสี่ชั่วโมงในการขับรถจากกรุงเทพฯ มายังอำเภอไทรโยค

สองข้างทางของจังหวัดกาญจนบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เราแวะชม หากคุณมีเวลามากพอหรือกำลังเดินทางขึ้นเหนือ คุณสามารถแวะที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณเพื่อเยี่ยมชมน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เมื่อเดินทางออกจากถนนทางหลวง เราก็เข้าสู่ถนนชนบทซึ่งเส้นทางลูกรังและมีหลุมบ่อเป็นบางช่วงเพื่อเดินทางไปยังแพรีสอร์ทริมแม่น้ำแควน้อยของเรา เราขับรถผ่านไร่อ้อยและมันสำปะหลัง สวนยางพารา ผ่านรถแทรกเตอร์ เกษตรกร สุนัขและไก่นับไม่ถ้วน ก่อนที่จะมาถึงรีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติของเรา

The riverside resorts on the Kwai Noi River offer you the chance to stay in a floating room right on the river. Raft room options range from eco-lodge with no electricity to a deluxe experience.

We stayed at a mid-range place with air-conditioning and Wi-Fi that’s suitable for children and family members visiting from cooler less humid climates. As we are in the rainy season the river is high and fast flowing so we were warned not to swim and take extra care of children on the room’s open deck.

Along the Burma Railway
ทางรถไฟสายพม่าหรือทางรถไฟสายมรณะมีระยะทาง 415 กม. ระหว่างอำเภอบ้านโป่ง ประเทศไทย ไปจนยังเมืองทันบุยซายัต ประเทศเมียนมาร์ สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2483-2486 โดยแรงงานเชลยศึกร่วม 60,000 คนของฝ่ายสัมพันธมิตรภายใต้กองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันมีเพียงทางรถไฟส่วนของไทยเท่านั้นที่ยังเปิดให้บริการรถไฟสองขบวนจากกรุงเทพฯ ไปยังสถานีน้ำตก อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

แม้ทางรถไฟสายนี้จะสร้างมาจากความไร้มนุษยธรรม แต่มันก็เป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความโหดร้ายและไร้ประโยชน์ของชาตินิยม หนึ่งในจุดที่มีผู้แวะเข้ามาเยี่ยมชมมากที่สุดของเส้นทางรถไฟสายนี้คือสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่อันมีสัญลักษณ์เฉพาะ สะพานเหล็กและคอนกรีตนี้สร้างขึ้นในปี 2486 คุณสามารถเดินข้ามสะพานหรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หรือสุสานสงครามในบริเวณใกล้เคียงเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดของทางรถไฟสายนี้

จุดชมวิวอีกแห่งของทางรถไฟสายนี้คือ สะพานวังโพ หรือ สะพานรถไฟถ้ำกระแซ ณ สถานีถ้ำกระแซ ที่นี่เป็นสะพานรถไฟที่สร้างด้วยไม้ตามแนวหน้าผาเลียบแม่น้ำแควน้อย นอกจากนี้ที่ถ้ำกระแซซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสะพานยังมีวัดของศาสนาพุทธที่สร้างขึ้นเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในการสร้างสะพานและทางรถไฟแห่งนี้

เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124

ระหว่างเดินทางกลับ พวกเราได้แวะที่อุทยานวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มัลลิกาเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชาวสยามในต้นสมัยของกรุงเทพฯ ราวปี ร.ศ. 92-129 (พ.ศ. 2416-2453) ซึ่ง ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) เป็นปีสำคัญที่ประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงสังคมและเทคโนโลยีครั้งใหญ่เพื่อให้เป็นอาณาจักรที่มีความทันสมัย นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนที่นี่สามารถแต่งกายด้วยชุดไทยโบราณและเที่ยวชมเมืองเล็ก ๆ บ้านลอยน้ำ ตลาด สวนและฟาร์ม นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของอุทยานยังแต่งตัวและพูดเหมือนอยู่ในสมัยนั้นขณะที่ทำการเกษตรและทำอาหารและงานฝีมือแบบดั้งเดิม

เมืองมัลลิกาเป็นที่ที่น่าสนใจและเราสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตของทุกชนชั้นในสังคมสยามตั้งแต่ชนชั้นสูงไปจนถึงชาวนา พวกเราทานข้าวแกงในมื้อกลางวันและเดินสำรวจย่านการค้าจีน-สยามช่วงต้นก่อนที่จะลองสีข้าวที่ฟาร์ม ความใส่ใจในรายละเอียดและความสมจริงของสถานที่เป็นสิ่งที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก เช่น มีลานทำถ่านสำหรับประกอบอาหารและใช้เหรียญสตางค์ของสมัยนั้นในการซื้อขาย

สรุป

แม้ว่ากาญจนบุรีจังหวัดทางภาคตะวันตกของประเทศไทยจะมีชื่อเสียงมาจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่แสนโหดร้าย แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือทิวทัศน์อันเขียวชอุ่ม ชีวิตชนบทที่ไม่เร่งรีบ และมรดกทางวัฒนธรรมที่รุ่มรวยซึ่งยังคงทำให้จังหวัดนี้เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเดินทางมาเที่ยวชม

ไม่ว่าคุณจะต้องการพักผ่อนและออกห่างจากโซเชียลมีเดียอยู่ในบ้านพักท่ามกลางธรรมชาติหรือตั้งแคมป์ในป่า หรือคุณเพียงแค่ต้องการใช้เวลาหนึ่งวันในการส่องช้างหรือล่องแพในแม่น้ำ มีวิธีมากมายให้คุณเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนในป่า นอกจากนี้ คุณยังสามารถเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ตามแนวเส้นทางรถไฟสายพม่านี้เพื่อย้ำเตือนถึงความเป็นจริงที่น่าอับอายของสงคราม

ข้อมูลเพิ่มเติม:

อุทยานแห่งชาต์ไทรโยค: https://goo.gl/maps/GK4gRF8XhfH5A58g8

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ: https://goo.gl/maps/RPVyK7uTg3s9gM869

สะพานข้ามแม่น้ำแคว: https://goo.gl/maps/LFigzFpZp28QcdNY7

สะพานรถไฟถ้ำกระแซ: https://goo.gl/maps/Z7VA6Njz2pYEA3q69

เมืองมัลลิกา: https://www.mallika124.com/en/attractions.html

ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/5ULeC9p9nczxccte8

เกี่ยวกับผู้เขียน (ทีมบรรณาธิการ)

David Nakayama

หากคอนเทนต์คือราชา ซึ่งแน่นนอนว่าต้องมีผู้สร้างราชา และธีมโปรดในบทความของผมคือความปรารถนาของมนุษย์ที่จะเป็นอิสระ ผมจบปริญญาโทในสาขาการศึกษาภาษาจีน และมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมในหลายประเทศ ในฐานะที่เป็น Comms ของเดลต้า ประเทศไทย ผมมีความสนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังของผลิตภัณฑ์และผู้คนของเรา สามารถแบ่งปันเรื่องราวของคุณกับผมได้ที่ https://www.linkedin.com/in/yushi-david-nakayama/

แชร์