การสร้างผลกระทบเชิงบวกและพัฒนาคนของเรา: กลยุทธ์ความเป็นผู้นำของประธานบริษัท เดลต้า อินเดีย

บทสัมภาษณ์ นายเบนจามิน หลิน ประธานบริษัท เดลต้า อินเดีย
บทความโดย เดวิด นากายามะ, DET Corp Comms
ภาพโดย Delta India Strategic Marketing

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 20 กุมภาพันธ์ 2564 – ความก้าวหน้าของเดลต้า อินเดีย ยังคงดำเนินต่อไปด้วยการขยายตัวของการวิจัยและพัฒนาและความสามารถในการผลิตและการมอบโอกาสให้กับผู้มีความสามารถในท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อน “Make in India” ของรัฐบาล เมื่อมองไปข้างหน้า ปฏิเสธไม่ได้ว่าอินเดียจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะตลาดโลกที่สำคัญและเสาหลักที่สนับสนุนเรื่องราวการเติบโตของกลุ่มเดลต้า

ในการสัมภาษณ์ผ่านอีเมลนี้ นายเบนจามิน หลิน ประธานบริษัท เดลต้า อินเดีย ได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจระหว่างประเทศและกลยุทธ์การเป็นผู้นำที่เขาเห็นว่าเป็นกุญแจสำคัญในการนำเดลต้า อินเดีย ไปสู่ยุคใหม่ของการเติบโต เขายังได้แบ่งปันบทบาทเชิงกลยุทธ์ของเดลต้า อินเดีย และวิธีการใช้ประโยชน์จากความสามารถในท้องถิ่นและความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมสถานที่ทำงานที่มีสภาพแวดล้อมที่ทุกคนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เขาแบ่งปันเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์เพื่อช่วยนำความเป็นผู้นำที่ซ้อนอยู่ในตัวทุกคนออกมาและการรักษาสมดุลชีวิตการทำงาน

คุณช่วยแบ่งปันเกี่ยวกับภูมิหลังและเส้นทางอาชีพของคุณสู่ความเป็นผู้นำของเดลต้า อินเดีย ได้หรือไม่?

ผมเข้าทำงานที่เดลต้าพร้อมประสบการณ์ในหลากหลายอุตสาหกรรมและหลากหลายบทบาททั่วโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสได้ทำงานในธุรกิจทุกขนาดโดยมีส่วนร่วมในการเติบโตของพวกเขา รวมทั้งเป็นผู้นำในโปรแกรมที่ซับซ้อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร

วันนี้ที่เดลต้า เราทุกกำลังมองไปข้างหน้าและกำลังสร้างสถานะของเราในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมในพลังงานอิเล็กทรอนิกส์ ผมยกย่องกับวิธีที่เราสร้างเทคโนโลยีที่มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาโซลูชั่นที่จะช่วยสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงชีวิตเป็นอย่างมาก

นี่เป็นรางวัลที่เหลือเชื่อที่ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ หากมีคนถามผมเกี่ยวกับวิธีที่ก้าวมาสู่จุดที่ผมอยู่ทุกวันนี้ ผมมีความสามารถให้การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่แตกต่างกัน การสนับสนุนของคนใกล้ตัวและคนที่ผมที่รักและให้โอกาสที่ดีที่สุดกับผมเสมอมา

เดลต้า อินเดีย สนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตองค์รวมของกลุ่มเดลต้าอย่างไรและทีมจะเสริมสร้างแบรนด์เดลต้าในภูมิภาคเอเชียใต้อย่างไร?

ตั้งแต่ปี 2546 เดลต้า อินเดีย ได้เติบโตขึ้นในฐานะบริษัทด้านการจัดการกำลังและพลังงานในอินเดีย โดยเดลต้าได้ดำเนินธุรกิจในสามประเภท ได้แก่ พาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอัตโนมัติ และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งธุรกิจเหล่านี้เป็นมรดกของการดำเนินงานในอินเดียในฐานะผู้นำตลาดสำหรับโซลูชั่นพลังงานโทรคมนาคม โซลูชั่นพลังงานหมุนเวียน และโซลูชั่นการแสดงผล

นอกจากนี้ เรายังเป็นผู้ให้บริการชั้นนำของโซลูชั่นระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม, โซลูชั่น UPS และดาต้า เซ็นเตอร์, โซลูชั่นการชาร์จ EV, โซลูชั่นการจัดเก็บพลังงาน, พัดลมระบายอากาศและเครื่องเป่าลมประเภท DC, และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีสำนักงานประจำภูมิภาค 14 แห่ง, โรงงานผลิต 4 แห่ง (Rudrapur, Gurgaon, Hosur และ Krishnagiri) และศูนย์ R&D 2 แห่ง (Gurgaon และ Bengaluru) ทำให้เดลต้ามีสถานะที่แข็งแกร่งทั่วอินเดียโดยมีพาร์ทเนอร์มากกว่า 200 ราย

ความสามารถหลักของเดลต้า ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน ระบบอัตโนมัติ และดิจิทัลไลเซชัน ขณะนี้เรากำลังดำเนินการลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐใน Krishnagiri เพื่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในอนาคต นอกจากนี้ เรายังกำลังสร้างสำนักงานวิจัยและพัฒนาแห่งใหม่และสำนักงานใหญ่ใน Bengaluru

สำหรับเป้าหมายระยะสั้น เราตั้งใจที่จะเร่งการเติบโตใน top-line โดยมุ่งเน้นไปที่ภาคส่วนที่สำคัญ เช่น EV, ดาต้า เซ็นเตอร์,  และระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดนี้มีศักยภาพที่สำคัญอย่างมากในอินเดีย อันที่จริงเราเป็นผู้บุกเบิกด้านการใช้พลังงานโทรคมนาคมและโซลูชั่นการแสดงผล

นอกจากนี้ เราต้องการขยายไปสู่ตลาดและธุรกิจใหม่ในอินเดียเพราะเดลต้ามีผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งของเทคโนโลยีที่ทันสมัยและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลัง และเรากำลังนำผลิตภัณฑ์หลายตัวจากกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ของเราในอินเดียมาผลิตที่ Krishnagiri เพื่อการส่งออกและการใช้งานทั่วโลก

อินเดียเป็นตลาดที่กว้างมากเพราะจำนวนประชากรที่กำลังจะแซงหน้าจีนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตั้งแต่เข้ามาทำงานเดลต้า อินเดีย คุณมีวิธีสนับสนุนทีมของคุณอย่างไรเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ?

เราเชื่อว่าอินเดียมีศักยภาพและโอกาสที่สำคัญและเดลต้าคาดการณ์ว่าในปี 2566 จะเติบโตขึ้น 20% ในอินเดีย เราคาดว่าจะมีการเติบโตในอินเดียมากกว่าในภูมิภาคอื่น ๆ และประเทศนี้จะเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับเดลต้าที่จะเติบโตในปีหน้า

เดลต้าเป็นบริษัทระดับโลกที่รวบรวมคนจากหลายวัฒนธรรม ในความเป็นจริงการทำงานกับผู้คนที่เดลต้าที่มีความหลากหลายเป็นหนึ่งในแง่มุมที่ผมชอบในการทำงานที่นี่

มีกลยุทธ์สำคัญสามประการที่ผมใช้เพื่อช่วยให้ทีมเพิ่มโอกาสในการเติบโตและกลายเป็นแนวหน้า 

• มีความกล้าหาญ
• ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม
• กระตุ้นให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของบริษัท

เดลต้า อินเดียฟื้นตัวขึ้นอย่างโดดเด่นหลังจากโควิด-19 อะไรคือความท้าทายใหม่ ๆ ที่คุณเผชิญอยู่ในขณะนี้ และคุณมีวิธีเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างไร?

โรคระบาดส่งผลกระทบต่อทั้งโลกในระดับที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ มันส่งผลกระทบต่อเราเช่นกัน แต่ไม่ถึงขนาดที่จะทำให้ผลกำไรของเราแย่ลง มีไม่กี่ผชปัจจัยที่ทำให้เราได้รับผลกระทบน้อยขนาดนี้ ประการแรก เราขอขอบคุณการมองการณ์ไกลและคำแนะนำจากสำนักงานใหญ่ทั่วโลกของเราในไต้หวัน ซึ่งคอยชี้นำเราเป็นอย่างดีเสมอมา

เมื่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มระบาดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ไต้หวันก็ได้นำบทเรียนที่เคยเรียนรู้จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้มาใช้อย่างรวดเร็ว และดำเนินการทั้งแผนป้องกันและแก้ไขอย่างรวดเร็วก่อนที่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกจะรู้ตัวว่าจะเกิดโรคระบาดขึ้น

อย่างที่คุณเห็นในปัจจุบัน ไต้หวันเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ไม่เพียงประสบความสำเร็จในการป้องกันโรคระบาดในครั้งนี้ แต่ยังทำให้การใช้ชีวิตภายนอกและธุรกิจกลับสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว เหตุผลของความสำเร็จคือการเรียนรู้จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้กับโรคซาร์สเฉพาะถิ่น รวมถึงการมองการณ์ไกลเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เราแข็งแกร่งมาจนถึงปัจจุบัน และเราหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไป

ผู้นำบรรษัทข้ามชาติชั้นนำระดับโลกหลายคนมาจากอินเดีย คุณคิดว่าอะไรคือสาเหตุของการเพิ่มขึ้นของความเป็นผู้นำระดับโลก และอะไรคือแนวทางสำคัญที่เดลต้า อินเดีย กำลังพัฒนาความเป็นผู้นำภายในองค์กร?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นว่าบริษัทระดับโลกหลายแห่ง รวมถึงบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 นำโดยผู้นำที่มาจากอินเดีย ผู้บริหารระดับสูงเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีผลการศึกษาที่ดีเท่านั้น แต่ยังมีประสบการณ์และความชำนาญในสายงานของตนอีกด้วย

ทักษะของชาวอินเดียเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก และบริษัทข้ามชาติก็เต็มใจที่จะจ้างผู้นำที่ไม่ใช่เจ้าของภาษามากขึ้นเรื่อย ๆ เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของชาวอินเดียในตำแหน่งผู้นำระดับโลกนั้นเกิดจากประสบการณ์ที่หลากหลายและโอกาสในการเติบโตในอินเดีย

บริษัทระดับโลกได้ขยายและรุกเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ทั่วโลก ทำให้จำเป็นต้องมีผู้นำที่คุ้นเคยกับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ชาวอินเดียเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในเรื่องนี้เนื่องจากพวกเขามีพื้นฐานการศึกษาที่เข้มงวดและได้สัมผัสกับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

นอกจากนี้ เนื่องจากอินเดียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ผู้คนจึงเปิดกว้างมากขึ้นในการทำงานในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงเห็นชาวอินเดียจำนวนมากเดินทางไปต่างประเทศเพื่อศึกษาและทำงานในประเทศเหล่านั้นเพื่อสร้างอาชีพที่มั่นคง สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นชินได้ ซึ่งจะช่วยในการรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจที่ไม่คาดฝัน

อินเดียเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน อะไรคือความแตกต่างที่สำคัญระหว่างเดลต้าในอินเดียกับตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายก่อนหน้านี้ของคุณ และคุณมีวิธีปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างไร?

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ทำงานกับเดลต้า ผมได้ย้ายไปมาระหว่างสำนักงานของเราทั่วเอเชียค่อนข้างบ่อย ปัจจุบันผมเป็นหัวหน้าภูมิภาคของเดลต้า อินเดีย และผมค่อนข้างโชคดีที่การเปลี่ยนแปลงระหว่างวัฒนธรรมและประเทศที่เดลต้านั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่นเสมอมา และการย้ายไปประจำประเทศต่าง ๆ เป็นเรื่องง่ายสำหรับผมเนื่องด้วยความพร้อมของแต่ละบริษัทในท้องถิ่นด้วยเช่นกัน

ในฐานะผู้นำ ผมได้สร้างวัฒนธรรมที่มีส่วนร่วมโดยสนับสนุนการหารือ ผมมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจในการแสดงความคิดเห็นของพวกเขา ในบางวัฒนธรรมของเอเชีย ความอาวุโสเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น ผู้คนอาจลังเลที่จะแสดงความคิดเห็นของตนเองต่อผู้จัดการของพวกเขา แต่ผมมั่นใจว่าสมาชิกในทีมของผมรู้ว่าการทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ และมันเป็นเพียงการแสดงความคิดและข้อเสนอแนะของพวกเขาเท่านั้น

ผมคิดว่าการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเป็นสิ่งสำคัญมาก แน่นอนว่าบางครั้ง ในฐานะผู้นำ ผมต้องทำการตัดสินใจที่ชัดเจนซึ่งไม่ใครสามารถคัดค้านได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ผมสนับสนุนให้มีการหารือเกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังดำเนินการ

สไตล์การจัดการของคุณเป็นอย่างไร และคุณจะนำไปใช้ในการจัดการทีมที่มีความหลากหลายทั่วอินเดียได้อย่างไร อะไรคือคุณสมบัติที่คุณกำลังมองหาในตัวผู้นำของคุณ?

ผมเห็นพนักงานทุกคนเป็นเพื่อนร่วมทีมของตนเองและผมปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นนั้นเสมอ สไตล์การจัดการแบบประชาธิปไตยของผมเกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับผู้นำในธุรกิจต่าง ๆ เพื่อพัฒนากลยุทธ์และตัดสินใจร่วมกัน ผมทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนตระหนักดีว่าความคิดและความคิดเห็นของพวกเขาได้รับการรับฟังจากการทำงานในโปรเจคที่เราทุกคนต้องตัดสินใจร่วมกัน สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขารู้สึกมีแรงจูงใจและกำลังใจที่จะส่งมอบผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในขณะที่พวกเขาพยายามทำให้สิ่งที่พวกเข้าคิดนั้นกลายเป็นจริง

ความหลากหลายและการมีส่วนร่วมในสถานที่ทำงานมีประโยชน์มากมาย ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและผลผลิตดีขึ้น นอกจากนี้ พนักงานยังมีความสุขมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ไม่แบ่งแยก ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะอยู่กับบริษัทมากขึ้น ซึ่งรวมถึง 'คนที่อยู่สูงหว่าเกณฑ์' หรือคนที่มีความสามารถโดดเด่นแต่อาจเข้ากับที่ทำงานได้ยาก

เราต้องการผู้นำที่ดีเพื่อช่วยแนะนำเราและตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ๆ ที่จำเป็นเพื่อให้เราก้าวต่อไป ผู้นำที่ดีควรมีความซื่อสัตย์ ความตระหนักรู้ในตนเอง ความกล้าหาญ ความเคารพ ความเห็นอกเห็นใจ และความรู้สึกขอบคุณ พวกเขาควรเรียนรู้อย่างคล่องตัวและยืดหยุ่นในขณะที่สื่อสารและมอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ

คุณเพลิดเพลินกับวันหยุดอย่างไร และคุณช่วยแบ่งปันเคล็ดลับในการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัวได้หรือไม่?

ในความคิดของผม ความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมซึ่งช่วยให้สมาชิกในทีมของคุณรู้สึกว่าพวกเขาสามารถทำงานได้ดี ในขณะเดียวกันก็จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่สำคัญในชีวิตส่วนตัวของพวกเขาได้ด้วย

ผมสนุกกับการใช้เวลากับครอบครัวและติดตามการพัฒนาความเชียวชาญและความรับผิดชอบด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษอย่างหนึ่งของผม ที่เดลต้า ผู้จัดการจะต้องสำเร็จการศึกษาต่อเนื่องหกชั่วโมงในแต่ละปี ดังที่คุณทราบ ผมอยู่ในสายงานนี้ได้โดยการอ่านวารสารวิชาการ

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน:

• พักผ่อนหลังจากเลิกงานด้วยการฟังวิทยุหรือพอดแคสต์หรืออ่านหนังสือ
• ลองออกกำลังกายหลังเลิกงานเพื่อปลดปล่อยความเครียด
• ลองฝึกสมาธิในรถก่อนไปทำงานและกลับบ้าน
• โทรศัพท์หาคนที่คุณรักระหว่างทางกลับบ้านเพื่อติดต่อกับพวกเขาและทิ้งเรื่องงานไว้ข้างหลัง

เราจะพบกับความรู้สึกเติมเต็มในการทำงานที่เดลต้าได้อย่างไร และคุณคิดว่าอะไรจะช่วยให้เรามีจุดมุ่งหมายในชีวิต?

การสร้างความแตกต่างในเชิงบวกในสังคมคือสิ่งที่เรายึดมั่น และเป้าหมายของเราในการเติมพลังให้กับสังคมไม่ได้หยุดเพียงแค่เทคโนโลยีด้านพลังงานของเราเท่านั้น ที่เดลต้า เราเชื่อในพลังของโลกที่มีความครอบคลุมมากขึ้น โลกที่มีอคติเชิงลบจะถูกมองเห็นและทำให้หมดไป และจะไม่มีการเลือกปฏิบัติอีกต่อไป

พันธมิตรมีบทบาทสำคัญในการบรรลุถึงวัฒนธรรมที่ไม่แบ่งแยกอย่างแท้จริง และด้วยความรู้และความเข้าใจเพียงเล็กน้อย เราทุกคนก็สามารถเป็นพันธมิตรที่ดีขึ้นได้

สุดท้ายนี้ คุณมีอะไรที่อยากจะแบ่งปันกับเพื่อนร่วมงานชาวเดลต้าทั่วโลกหรือไม่?

เดลต้าได้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีของโลก พันธกิจของเราคือมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า และเราก็ได้ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์นี้เสมอมา

ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่บริษัทที่ยอดเยี่ยมนี้ เดลต้าได้มอบโอกาสก้าวหน้ามากมายให้กับผม ผมเริ่มต้นอาชีพแรกที่ไต้หวัน และผมรู้สึกได้ทันทีว่าผมกำลังเข้าร่วมครอบครัวใหญ่ที่มีนวัตกรรมสุดล้ำและขับเคลื่อนเพื่อสร้างความแตกต่างในสังคม

วัฒนธรรมของเดลต้าคือเหตุผลว่าทำไมพนักงานจำนวนมากจึงเลือกที่จะอยู่กับบริษัทมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งเพราะผมก็ได้รับโอกาสในหลากหลายประเทศ บทบาท และหน้าที่ จากประสบการณ์ของผม เดลต้าใส่ใจพนักงาน มีความใส่ใจต่อสังคม มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณเปลี่ยนจากหน้าที่หนึ่งไปยังอีกหน้าที่หนึ่ง คุณจะไม่มีเวลาเตรียมตัวให้พร้อมอย่างเต็มที่สำหรับก้าวต่อไป ซึ่งเป็นจุดที่เดลต้าเข้ามาและช่วยให้คุณพัฒนาการทำงานได้

เกี่ยวกับผู้เขียน (ทีมบรรณาธิการ)

David Nakayama

หากคอนเทนต์คือราชา ซึ่งแน่นนอนว่าต้องมีผู้สร้างราชา และธีมโปรดในบทความของผมคือความปรารถนาของมนุษย์ที่จะเป็นอิสระ ผมจบปริญญาโทในสาขาการศึกษาภาษาจีน และมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมในหลายประเทศ ในฐานะที่เป็น Comms ของเดลต้า ประเทศไทย ผมมีความสนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังของผลิตภัณฑ์และผู้คนของเรา สามารถแบ่งปันเรื่องราวของคุณกับผมได้ที่ https://www.linkedin.com/in/yushi-david-nakayama/

แชร์