นิตยสารออนไลน์รายสองเดือนสำหรับครอบครัวเดลต้าที่เพียรพยายามในการทำงาน
ประจำภูมิภาคอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย
นิตยสารออนไลน์รายสองเดือน
สำหรับครอบครัวเดลต้าที่เพียรพยายามในการทำงาน
ประจำภูมิภาคอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย

DET Voices ตอนที่6: เดลต้าสู้กับโควิด!

โดย Delta Electronics (Thailand) PCL. - เผยแพร่เมื่อ พฤษภาคม 11, 2564

COVID กลับมาอีกระลอก! แต่บริษัทก็ยังไม่ยอมแพ้ในการต่อสู้กับโรคระบาดนี้ที่คุกคามสุขภาพของเรา และความสามารถที่จะยังต้องเลี้ยงครอบครัวของเรา  DET Voices ตอนที่ 6 นี้ เราอยากฟังเสียงของผู้ที่อยู่แถวหน้าของการป้องกันโควิดที่เดลต้า ประเทศไทย

เพื่อนร่วมทีมจากทีม Safety, Facility, Security, ER และ Cleaning Staff พูดคุยเกี่ยวกับวิธีการเฉพาะในการช่วยต่อสู้กับ COVID

แต่ละคนสามารถเลือกคำถามใดก็ได้:

  1. ใครคือคนในบ้านของคุณที่คุณต้องการปกป้องมากที่สุดจาก COVID และคุณกระทำอย่างไรต่อพวกเขา?
  2. คุณทำอย่างไรเพื่อเตือนตัวเองให้สวมหน้ากากอย่างถูกต้องตลอดเวลาหรือไม่พบปะกับเพื่อน ๆ
  3. คุณทำอย่างไร เมื่อคุณรู้สึกเครียดในที่ทำงานหรือกังวลเกี่ยวกับ COVID?
  4. มีวิธีง่ายๆอะไรบ้างที่เราสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันที่เดลต้าในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้

นางสาวชุตินันท์ ศัตรูพ่าย, Officer

  1. คนแรกที่จะนึกถึงเลยนะคะก็คือคุณแม่แล้วก็คุณยายนะคะ สิ่งที่เราคำนึงถึงอยากปกป้องให้ท่านไม่ติดโควิดเนอะ คือด้วยการที่เราทำงานกับความเสี่ยง ณ จุดนี้ ตัวเราเองก็ลดการไปเจอท่าน จากการเจอต่อหน้าเป็นการโทรหรือวีดีโอคอลแทนค่ะ ซึ่งในยุคปัจจุบันก็สะดวกสะบายขึ้นแล้วค่ะ
  2. อย่างแรกเลยนะคะก็เริ่มจากตัวเราก่อนออกจากบ้าน อย่างแรกเลยคือเช็คความสวย ถ้าส่องกระจกแล้วยังสวยอยู่แสดงว่าเรายังไม่ได้ใส่หน้ากาก เพราะฉนั้นเราก็ต้องรีบหยิบหน้ากากมาใส่เพื่อปิดบังความสวยของเราเอาไว้นะคะ
  3. อย่างแรกเลยก็คือลดรับฟังข่าวซุบซิบนะคะ ให้หาแหล่งข่าวที่เป็นจริงมากที่สุดดีกว่าค่ะ

  4. อย่างแรกเลยก็คือเริ่มจากตัวเราเองนะคะ ก็คือหนึ่งหน้ากากอนามัย เราต้องเช็คตัวเองว่าเราใส่หน้ากากถูกต้องไหม เว้นระยะห่างจากจุดที่มีความเสี่ยง ไม่ไปที่ที่แอร์อัด พกเจลแอลกอฮอล์ แล้วก็ตรงไหนที่มีคนเยอะหรือคนอยู่มากก็ให้เราเว้นระยะห่าง ณ จุดๆนั้นไปค่ะ

นางสาวผกามาศ ผะอบเหล็ก, Officer

  1. พ่อกับแม่ค่ะ เราไม่รับประทานอาหารร่วมกันค่ะ แยกการใช้ห้องน้ำและของใช้ พอเราไปถึงบ้านก็ใส่หน้ากากอนามัยตลอกเวลา และอาบน้ำให้เร็วที่สุดค่ะ
  2. ก็เตรียมหน้ากากอนามัยไว้ก่อนที่จะออกจากบ้านทุกวัน ตอนเย็นกลับไปหลังเลิกงานก็คือหลังอาบน้ำเสร็จก็จะเตรียมหน้ากากอนามันไว้ที่กระเป๋า ก่อนออกจากบ้านคือเราจะต้องหยิบก่อนออกจากบ้านทุกวัน ส่วนของการไม่พบปะเพื่อนๆก็คือได้มีการพูดคุยกับเพื่อนๆ บอกเพื่อนๆว่า ไว้เจอกันหลังโควิดหมดนะ เป็นการใช้วีดีโอคอลเอา
  3. จะเป็นการแสบข่าวเกี่ยวกัยโควิดให้น้อยที่สุดค่ะ แล้วก็ป้องกันตัวเองเวลาที่จะออกไปนอกบ้านค่ะ เพื่อเป็นการลดความเครียดของตัวเอง

  4. ก็คือการสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆค่ะ ไม่รับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนร่วมงาน แล้วก็ไม่พาตัวเองไปพื้นที่เสี่ยงค่ะ

นางสาวชมภู่ สันตะวา, Supervisor

  1. คนที่หนึ่งก็คือแม่ คนที่สองก็คือลูกค่ะ เราจะทำอย่างไรกับเขา? คือเราจะต้องป้องกันตัวเองค่ะ เพราะว่าเช้ามาเราจะต้องมาทำงาน หน้ากากนี่ลืมไม่ได้เลยค่ะ ทุกอย่างที่เราสัมผัสเราจะต้องใช้เจลแอลกอฮอล์ตลอด คือหลีกเลี่ยงการไปที่ชุมชนคนเยอะๆอ่ะค่ะ ไม่ไป คือเลิกงานเสร็จแล้วกลับบ้านเลย ไม่ไปยุ่งกับคนเยอะๆอ่ะค่ะ แล้วก็เข้าบ้าน เข้าบ้านนี่เราจะไม่เข้าไปคุยกับลูกกับแม่นะคะ เราจะเข้าไปอาบน้ำทันทีค่ะ
  2. ก็ใส่หน้ากากตลอดเวลาค่ะทุกวันนี้ก็ไม่ลืม ใส่สายคล้องหน้าสาสตลอดเวลาค่ะ จริงๆแล้วจะใส่ตลอดเวลาค่ะยกเว้นตอนทานข้าวถึงถอดออก เพราะเราไม่รู้เราจะเจออะไรบ้าง เพราะว่าเราต้องทำงานตลอด  หน้ากากนี่คือจะติดตลอดค่ะ หน้ากากนี่คืดชีวิตจิตใจเลย คือส่วนหนึ่งของชีวิตเลย ถอดไม่ได้ ลืมไม่ได้ค่ะ แล้วก็หลีกเลี่ยงการไปหาเพื่อน เดินตลาดนัด ตอนนี้จะไม่ไปเลย เลิกจากงานก็จะกลับบ้านอย่างเดียว จะไม่ไปไหนเลยค่ะ
  3. เครียดจากโควิด แรกๆก็อาจจะเครียดแต่ตอนนี้ไม่ค่ะ เพราะว่าเช้าเรามาทำงานแต่ละแผนกแต่ละคน น้องๆทุกคนเราก็เห็นเขาใส่หน้ากากกันหมด ทุกๆคนก็รักตัวเองนะคะ ทุกคนก็ไม่ได้ละทิ้งอะไรตรงนี้ จากความเครียดหนักๆพอวันต่อวันเรามองทุกคน ทุกคนก็ดูแลตัวเองดีหมดอ่ะค่ะ ส่วมหน้ากาก ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ก็มีความปลอดภัยและหายกังวลได้ค่ะ
  4. เราอยากให้ทุกคนส่วมหน้ากาก ใช้เจลแอลกอฮอล์ ทำตามวิธีที่ถูกต้อง เราจะไปสัมผัสหรือไปตรงไหนก็แล้วแต่ ควรใช้เจลแอลกอฮอล์ แล้วก็หน้ากากคืออย่าลืมเลย ร่วมด้วยช่วยกันค่ะ แล้วเราก็จะผ่านมันไปได้ เราต้องช่วยกันทุกคน

นางสาวมณฑา สงัด, Operator

  1. ลูกคนเล็ก เพราะว่าพี่เป็นห่วงเขาที่สุดก็คือเขาเป็นเด็ก พอเขาจะออกนอกบ้านพี่ก็จะเอาสายคล้องแมสใส่แมสใหม่วางไว้ แล้วเขียนป้ายว่า ก่อนไปไหนให้ใส่แมส นาฬิกาแอลกอฮอล์ที่แม่ซื้อไว้ให้ ใส่ แล้วก็ฉีดล้างมือให้สะอาด ก่อนจะกินอะไรก็ล้างมือ ไม่จำเป็นไม่ต้องออกนอกบ้านก็ได้
  2. คือพี่จะต้องเตรียมแมสไว้ตลอด จะไม่ให้ลืมจะไม่ลืมเลย จะมีของตัวเองสำรองไว้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นจะไม่ค่อยคุยกับเพื่อน คุยก็คือคุยถามนิดๆหน่อยๆแล้วก็ผ่าน แล้วก็คือจะไม่ไปสังสรรค์กับใคร ข้าวก็ห่อมากินเองเลย

  3. พี่จะไม่ฟังข่าว ถ้าฟังพี่ก็จะให่มันผ่านไปแล้วจะไม่คิดเยอะ ถ้าคิดเยอะมันก็จะเกิดความเครียด ไม่คิดดีกว่า ไม่ฟังดีกว่าค่ะ

  4. ตามนโยบายบริษัทคือใส่หน้ากาก ล้างมือ แล้วก็ทำตามที่บริษัทบอก ก็ถือว่าช่วยบริษัทแล้ว เราจะพยายามทำเต็มที่ให้ดีที่สุด

นางสาวลำพึง คาเอ้ย, Operator

  1. จริงๆแล้วก็เป็นห่วงทุกคนในบ้าน แต่ที่ห่วงที่สุดก็คือน้องสาวเพราะเขามีโรคประจำตัว  อย่างเลิกงาน อันดับแรกจะต้องอาบน้ำก่อน แล้วอย่างเวลาทานข้าวที่บ้านก็จะใช้ช้อนกลางค่ะ

  2. คือเราเป็นคนที่ชอบเล่นโทรศัพท์ แล้วพอเวลามีไลน์เด้งมาหรือว่าข่าวใน Facebook เด้งมาเรื่องโควิด เราก็จะเข้าไปอ่าน แล้วเหมือนกับว่าเราไปทบทวนตัวเองว่าการสวมใส่หน้ากากต้องทำอย่างไร เหมือนเตือนตัวเองค่ะ

  3. เราไม่ได้เคียดค่ะแต่จะกังวลมากกว่า แล้วก็วิธีคลายกังวลก็ดู TikTok บ้าง ดูสื่อต่างๆบ้าง เพื่อที่จะคลายกังวล แล้วก็จะทำให้เราตระหนักว่าเราจะต้องใส่หน้ากากตลอดเวลานะ ไม่ไปในที่ๆเสี่ยง หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็จะเว้นระยะห่างค่ะ

  4. คือจริงๆแล้วการใส่หน้ากากก็เป็นชีวิตประจำวันของเราที่ต้องทำ พอเราเห็นชุดฟอร์มที่เราต้องใส่ไปทำงาน หน้ากากเราก็เตรียมไว้กับชุดฟอร์มแล้วก็หยิบมาใส่ ก็เหมือนเราทำทุกวัน เราทำแบบนี้ประจำค่ะ

นางสาวตุลาพร แสงจันดา, Supervisor

  1. ตอนนี้เป็นห่วงแม่กับน้องสาวค่ะ สิ่งที่จะช่วยเหลือเขาได้ก็คือเตือนเขา ให้เขาล้างเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ แล้วก็ให้สวมใส่หน้ากากก่อนออกจากบ้าน

  2. คือก่อนออกจากห้อง เราก็จะเตรียมหน้ากากวางไว้กับบัตรพนักงาน ตอนที่เราหยิบบัตรพนักงานคล้องคอเราก็จะได้หยิบหน้ากากมาสวมก่อนออกจากห้อง แล้วก็หลีกเลี่ยงการพูดคุยกับเพื่อนๆหรือกินข้าวร่วมกันค่ะ

  3. เราเลือกที่จะโฟกัสหน้าที่การงานที่เรารับผิดชอบมากกว่าค่ะ ส่วนเรื่องข่าวสารเกี่ยวกับโควิด เราก็รับรู้รับฟังแล้วก็นำมาใช้ เป็นแค่องค์ประกอบในชีวิตประจำวันแค่นั้นค่ะ

  4. คือการสวมหน้ากากอนามัน การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือว่าการเว้นระยะห่างระหว่างการพูดคุย และเราดูแลตัวเองดี มันก็ถือว่าเป็นการที่เราช่วยบริษัท แล้วก็ลดความเสี่ยงได้อีกทางนึงค่ะ

นางสาวละออง แก้วเก็บคำ, Operator

  1. เราอยู่กับแฟนสองคน เราก็จะบอกแฟนว่าเวลาไปทำงานอย่าไปดื่มเหล้านอกสถานที่ ให้กลับห้องแล้วอาบน้ำ ให้รักษาความสะอาด อย่าไปในสถานที่ที่คนเยอะ แล้วก็บอกแฟนว่าถ้าเป็นแล้วเพื่อนร่วมงานเขาจะลำบาก เพื่อนเขาจะรังเกียจ ทำให้เขาเดือดร้อน เป็นแล้วกว่าจะรักษามันหายยาก เสียเวลาทำงาน รายจ่ายเยอะ

  2. ก็จะคิดว่าโรคนี้มันเป็นเร็ว ต้องระวังตัวเองตลอดเวลา เราต้องคิดว่าต้องระวังตัวเองตลอดเวลา แต่ไม่ได้กลัวนะ ต้องระวัง ใส่หน้ากาก ล้างมือ ทำตัวเองให้สะอาด งดไปที่ที่คนเยอะๆ หรือพื้นที่เสี่ยง

  3. จะพยายามคิดว่าตัวเองไม่เป็น ไม่ต้องเครียด ต้องระวังตัวเอง มั่นใจในตัวเองว่าเราดูแลตัวเองดีแล้วเราจะผ่อนคลายตรงนี้ บอกตัวเองว่าเราไม่เป็นโควิดหรอก ถ้าเราดูแลตัวเองดี ใส่ใจตัวเองตลอดเวลา เราก็จะไม่เครียด คนข้างๆก็จะคอยบอกเราว่าต้องรักษาความสะอาดนะ เราต้องผ่อนคลายกับเขา คุยว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา

  4. ระวังตัวเอง ไม่ไปที่เสี่ยง คอยบอกน้องๆเดลต้าว่าต้องทำตามระเบียบ ใส่หน้ากาก อย่าไปที่เสี่ยง อย่าชุมนุมตัวเอง ถ้าเป็นแล้วลำบากทั้งการงานของตัวเอง และลำบากบริษัท สงสารบริษัท ค่าใช้จ่ายเยอะแล้ว

เกี่ยวกับผู้เขียน (ทีมบรรณาธิการ)

Delta Electronics (Thailand) PCL.

แชร์ facebook linkedin

ร่วมแสดงความเห็น

แสดงความคิดเห็น next