โดย Delta Taiwan - เผยแพร่เมื่อ มกราคม 28, 2568
ไทเป, 10 ธันวาคม 2567 – เดลต้า ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการพลังงานและผู้ให้บริการโซลูชันสีเขียวอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย IoT สร้างปรากฏการณ์คว้ารางวัล “แบรนด์ระดับโลกยอดเยี่ยมของไต้หวัน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ย้ำความเป็นผู้นำด้านการจัดการพลังงานและโซลูชันสีเขียวระดับโลก โดยปีนี้ยังคงติดอันดับท็อป 10 แบรนด์ชั้นนำของไต้หวัน โดยมูลค่าแบรนด์ของเดลต้าเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 9% แตะ 593 ล้านเหรียญสหรัฐ รางวัลนี้จัดขึ้นโดยกรมพัฒนาการอุตสาหกรรม กระทรวงเศรษฐกิจ ร่วมกับ Interbrand และสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งไต้หวัน
นาย ชาน-ชาน กัว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ของเดลต้า กล่าวว่า “กระแส AI ในปี 2567 นี้ ได้ผลักดันความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยโซลูชันพลังงานและการจัดการความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง ส่วนประกอบแบบพาสซีฟ และโครงสร้างพื้นฐานของเดลต้า ทำให้เราเป็นพันธมิตรสำคัญของผู้ผลิตชิป AI ชั้นนำ ผู้ให้บริการคลาวด์ และผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ระดับโลก สะท้อนถึงความได้เปรียบทางเทคโนโลยีและความเป็นผู้นำของเดลต้าในวงการ AI นอกจากนี้ เรายังเร่งพัฒนาธุรกิจโซลูชันของเดลต้า โดยปรับแต่งพอร์ตโฟลิโอโซลูชันอัจฉริยะและประหยัดพลังงาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งการได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 10 แบรนด์ระดับโลกอันดับต้น ๆ ของไต้หวัน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศและศักยภาพที่โดดเด่นของธุรกิจระดับโลกของเราและการมีส่วนร่วมอย่างสำคัญในด้าน ESG ทั่วโลก”
เดลต้า ได้เข้าร่วมการประชุมภาคีสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP) อย่างต่อเนื่องตลอด 17 ปีที่ผ่านมา และในปีนี้ เดลต้ายังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นบริษัทไทยรายแรกที่ได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์จากอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (CBD) ซึ่งล่าสุด มูลนิธิสิ่งแวดล้อมและการศึกษาเดลต้า ได้ร่วมมือกับ NParks ประเทศสิงคโปร์ โดยเป็นหนึ่งในองค์กรแรก ๆ ที่สนับสนุนโครงการ "100K Corals" ซึ่งเป็นโครงการฟื้นฟูและเพิ่มจำนวนปะการังในภูมิภาค งานเปิดตัวความร่วมมือนี้ได้รับเกียรติจากนายเดสมอนด์ ลี รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติสิงคโปร์ เป็นประธาน พร้อมด้วยเจน กูดออล นักอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลก และนายวิคเตอร์ เจิ้ง กรรมการมูลนิธิสิ่งแวดล้อมและการศึกษาเดลต้า ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงาน นอกจากนี้ นายวิคเตอร์ เจิ้ง ยังได้แบ่งปันความสำเร็จครั้งนี้ให้ผู้ชมในประเทศไทยผ่านการถ่ายทอดสดทางโซเชียลมีเดียอีกด้วย
ซึ่งในอนาคต เดลต้ามุ่งมั่นที่จะนำความเชี่ยวชาญด้านระบบอัตโนมัติและโซลูชันอุตสาหกรรมมาสนับสนุนการพัฒนาและดำเนินงานของศูนย์เพาะเลี้ยงปะการังแห่งใหม่ที่สถาบันวิจัยทางทะเลแห่งชาติเซนต์จอห์นส์ไอส์แลนด์ (SJINML) ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้านระบบนิเวศทางทะเลและสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับสิ่งแวดล้อมทั่วโลก
เดลต้า มุ่งมั่นที่จะผสานหลักการ ESG สอดรับกับการพัฒนาธุรกิจ นอกจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมโซลูชันประหยัดพลังงาน และอาคารสีเขียวแล้ว เดลต้ายังตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ในทั่วโลก เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เดลต้าได้ขยายขีดความสามารถทั่วโลก โดยมุ่งเน้นด้านการวิจัย การผลิต และการพัฒนาธุรกิจ โดยฐานการผลิตหลักตั้งอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ เอเชียแปซิฟิก และยุโรปตะวันออก และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เดลต้าได้ขยายการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญในประเทศไทยและอินเดีย เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในแต่ละท้องถิ่น และปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิศาสตร์การเมืองโลกได้อย่างยืดหยุ่น
กลยุทธ์ด้านการวิจัยและพัฒนาของเดลต้า มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก และบูรณาการความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาจากบริษัทที่ได้เข้าซื้อกิจการเพื่อยกระดับศูนย์วิจัยและพัฒนาของเดลต้า ในแง่ของกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจ เดลต้าได้เปลี่ยนผ่านจากผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปสู่ผู้ให้บริการโซลูชัน ยกระดับความสามารถหลักของแพลตฟอร์มการขายในแต่ละภูมิภาค เพื่อมอบบริการที่ดีกว่าให้กับลูกค้า และสร้างมูลค่าผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี