นิตยสารออนไลน์รายสองเดือนสำหรับครอบครัวเดลต้าที่เพียรพยายามในการทำงาน
ประจำภูมิภาคอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย
นิตยสารออนไลน์รายสองเดือน
สำหรับครอบครัวเดลต้าที่เพียรพยายามในการทำงาน
ประจำภูมิภาคอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย

ทำให้ดีที่สุดเพื่อทีมของคุณ: ผู้จัดการประจำเดลต้า สิงคโปร์แบ่งปันความลับสู่ความสำเร็จของเดลต้าและ Eltek

โดย David Nakayama - เผยแพร่เมื่อ พฤศจิกายน 15, 2563

บทสัมภาษณ์ นาย Jimmy Wan ผู้จัดการประจำภูมิภาคของ Eltek Singapore และ Delta Electronics Singapore
บทความโดย เดวิด นากายามะ
ภาพโดย นาย Jimmy Wan

กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 – ในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลกและผู้กำหนดแนวโน้มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์เป็นฐานสำคัญในภูมิภาคสำหรับธุรกิจทั้งของ Eltek และเดลต้า และการวิจัยและพัฒนาของสำหรับโซลูชั่น Advanced Living ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแบรนด์เดลต้าในสิงคโปร์เติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็งกว่าที่เคยเป็นมาด้วยการทำ MOU ระหว่างภาครัฐและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมโซลูชั่น Industry 4.0 และสำนักงานใหม่ล่าสุดในการทำงาน

ในการสัมภาษณ์ทางอีเมล์กับนาย Jimmy Wan ผู้จัดการประจำภูมิภาคของ Eltek Singapore และ Delta Electronics Singapore ในครั้งนี้ เขาได้แบ่งปันความเป็นมาในการนำเสนอโซลูชั่นด้านพลังงานทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้เขายังแบ่งปันเคล็ดลับในการทำงานร่วมกันที่ประสบความสำเร็จของ Eltek และ Delta เพื่อผลักดันการเติบโตในภูมิภาค วิธีการเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ และความสำคัญของสมดุลชีวิตการทำงานที่ดีในสถานการณ์ที่มีการระบาดของโรคไปทั่วโลก

คุณช่วยเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับชีวิตและอาชีพของคุณตั้งแต่ต้นจนมาถึงปัจจุบันหน่อยได้ไหม?

ผมสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ในปี 2542 และเริ่มต้นอาชีพเป็นวิศวกรโครงการในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในติดตั้งไฟถนนที่เกาะจูร่ง ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งนั่นเป็นโครงการสุดท้ายของผม

ในปี 2544 ผมเข้ามาทำงานกับ Eltek ในตำแหน่งวิศวกรโครงการและเริ่มต้นจากการจัดการโครงการของบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ โดยมีโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่จำนวนมากในสำนักงานกลางทั่วทั้งเกาะ ผมยังมีส่วนร่วมในแอปพลิเคชั่นดาต้า เซ็นเตอร์ จัดการการใช้งานดาต้า เซ็นเตอร์ในหลายประเทศ สถานีเคเบิ้ลและจัดสรรพื้นที่สำหรับติดตั้ง และผมยังได้เดินทางไปทั่วเอเชียเพื่อทำงานนี้โดยเดินทางจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งเพื่อติดตั้งระบบไฟฟ้าทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย เวียดนาม ฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลี

อย่างไรก็ตามในช่วงการระบาดของโรคซาร์สในปี 2546 นั้นมีโครงการที่ต้องทำน้อยมาก ดังนั้น ผู้บริหารจึงตัดสินใจให้วิศวกรโครงการทั้งหมดไปทำหน้าที่ฝ่ายขาย ผมยอมรับความท้าทายในครั้งนี้และเริ่มต้นจากการขายในสิงคโปร์ เวียดนาม ฮ่องกง และไต้หวัน ตั้งแต่ปี 2546 ถึงปี 2550 3G กำลังเฟื่องฟูและ Eltek ได้เจาะเข้าไปในบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาค APAC

จากนั้นผมออกจาก Eltek ในปี 2551 และกลับเข้าร่วมอีกครั้งในปี 2556 ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขายของภูมิภาค APAC สำหรับภาคอุตสาหกรรม ก่อนที่เดลต้าจะเข้าซื้อกิจการของ Eltek และในที่สุดก็ได้ย้ายไปเป็นผู้จัดการประจำประเทศสิงคโปร์ในปี 2561

จุดเด่นของเดลต้า และ Eltek ทั้งในสิงคโปร์และภายในกลุ่มบริษัทเดลต้าคืออะไรและจะเพิ่มมูลค่าได้อย่างไร?

Eltek มุ่งเน้นไปที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลังประสิทธิภาพสูงและการแปลงพลังงาน และยังมีจุดยืนที่แข็งแกร่งในเอเชีย เราให้บริการผู้สร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมข้ามชาติ ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ ตลอดจนบริษัทอุตสาหกรรม เราจัดตั้งสำนักงานในสิงคโปร์เป็นสำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2540 ที่นี่เราจัดการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการจัดจำหน่าย การประกอบระบบ การสนับสนุนด้านเทคนิค และการบริการลูกค้า การจัดหาเงินทุน การตลาดและการขาย

เดลต้าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์หลายประเภทซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าของ Eltek ในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น เราขาย Delta CIS UPS ให้กับหนึ่งในสามผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำในสิงคโปร์ และตอนนี้เรากำลังดำเนินการเพื่อเสนอข้อเสนอด้านพลังงานแบบรวมให้กับบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำสองแห่งของประเทศอีกด้วย นอกจากนี้เรากำลังดำเนินโครงการนำร่องให้กับบริษัทโทรคมนาคม ซึ่งรวมโซลูชั่นจาก Eltek CIS และ BA BG เข้าด้วยกัน โดยโครงการนำร่องนี้สามารถเป็นแนวทาง 5G สำหรับ Edge Infrastructure ในภาคโทรคมนาคม

นอกจากนี้ โซลูชั่นการกักเก็บพลังงานและสถานีชาร์จ EV ของเดลต้ายังเป็นตัวเปิดประตูที่ยอดเยี่ยมสำหรับหน่วยงาน/แผนกต่าง ๆ ภายในบริษัทสาธารณูปโภคที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ซึ่งเราเป็นผู้จำหน่ายโซลูชั่น Eltek Industrial ให้อยู่แล้ว ดังนั้น กลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชั่นมากมายของเดลต้าจึงเพิ่มโอกาสที่ยอดเยี่ยมให้กับเราในสิงคโปร์

โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานส่วนใดในท้องถิ่นและภูมิภาคของคุณมากที่สุดและอะไรคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณคาดการณ์ไว้ข้างหน้าในภาวะปกติใหม่?

การเดินทางในหลายประเทศถูกจำกัดเนื่องจากการระบาดอย่างหนักของโควิด-19 สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของเราอย่างชัดเจนทั้งในด้านกำลังการผลิตและการจัดส่ง พนักงานฝ่ายผลิตของเราในสิงคโปร์ส่วนใหญ่มาจากมาเลเซีย ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถกลับมาทำงานได้เนื่องจากเขตชายแดนปิด ข้อจำกัดในการเดินทางไม่ได้จำกัดเพียงแค่พนักงานของเราเท่านั้น แต่ยังขัดขวางการขนส่งและการจัดส่งไปยังประเทศต่าง ๆ และการติดตั้งในสถานที่อีกด้วย

เมื่อพิจารณาสถานการณ์โควิด-19 แล้ว เราพบว่ายังคงมีการแพร่กระจายไปทั่วประเทศและดูเหมือนว่าจะกลายเป็นสงครามที่ยืดเยื้อ ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราต้องเผชิญคือความล่าช้าของโครงการและการจำกัดการสนับสนุนของเราไปยังประเทศอื่น ๆ ใน SEA ดังนั้น เราต้องให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดาต้า เซนเตอร์ และธุรกิจ Industrial Power ในทางกลับกันเราจำเป็นต้องสำรวจโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ต่อไป เช่น การสร้างระบบอัตโนมัติและ EVCS ด้วยเหตุนี้เดลต้า สิงคโปร์กำลังปรับเปลี่ยนเพื่อให้บริการโซลูชั่นครบวงจรสำหรับ BUs แก่ลูกค้า

สิงคโปร์มีบทบาทในการพัฒนาเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณช่วยแบ่งปันโครงการที่น่าสนใจที่ทีมของคุณกำลังทำอยู่ในขณะนี้ ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นทางเทคโนโลยีของสิงคโปร์ได้หรือไม่?

สิงคโปร์กำลังดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาลในการเปลี่ยนเป็น Smart Nation ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัลที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้จึงมีโอกาสที่น่าตื่นเต้นมากมายสำหรับเดลต้า สิงคโปร์ ในแง่ของเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่ Delta BUBG หลายแห่งสามารถเข้าร่วมได้

ตัวอย่างเช่น เรากำลังดำเนินโครงการดาต้า เซ็นเตอร์ที่ไม่เพียงแต่จะใช้งานระบบไฟฟ้า CIS DCIM และ Eltek ของเดลต้าเท่านั้น แต่ยังมีกล้อง BA BG ของดล้ตา และระบบจดจำใบหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชั่นนี้อีกด้วย นอกจากนี้เรายังทำการตลาดอย่างหนักในเทคโนโลยีการทำฟาร์มอัจฉริยะของเราซึ่งรวมเอาโซลูชั่นด้านพลังงาน CIS BU ของเดลต้า สำหรับโครงการริเริ่มด้านการเกษตรของทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ

ในตลาดที่เต็มไปด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ เดลต้า สิงคโปร์จะมีข้อได้เปรียบอะไรในการแข่งขันและดึงดูดผู้มีความสามารถในระดับสูง?

เดลต้า สิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทที่เน้นเรื่อง R&D โดยมี Delta Research Center ด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพที่ NTU Singapore ในปี 2562 เดลต้า สิงคโปร์ ได้ลงนาม MOU กับหน่วยงานรัฐบาลของสิงคโปร์ JTC เพื่อส่งเสริมและช่วยเหลือลูกค้าของ JTC ในการเดินทางเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการนำเสนอความสามารถของเดลต้าในการนำเสนอโซลูชั่นด้านพลังงานที่ซับซ้อนและกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กว้างขึ้น

นอกจากนี้ Eltek ยังอยู่ในสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2540 และเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในหมู่บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่และเครือข่ายอุตสาหกรรมซึ่งยังคงดึงดูดความสนใจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องของเดลต้าในสิงคโปร์ เรามุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ดึงดูดผู้มีความสามารถเข้ามาร่วมงานกับเรา

คุณปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรของเดลต้าให้กับทีมของคุณอย่างไร?


Eltek focuses on high-efficiency power electronics and energy conversion and has a strong position in Asia. We serve multinational, regional and national builders of telecom infrastructure as well as industrial companies. We established our Singapore office as our Asia-Pacific Regional Office in 1997. Here we handle all matters relating to distribution, system assembly, technical support, and customer services, financing, marketing and sales.

Delta is a manufacturer of multiple products, which are the perfect match for Eltek’s current customers. For example, we were already selling Delta CIS UPS into one of the top three telcos in Singapore and now we’re moving on to provide a unified power proposal to the nation’s top two telcos too. In addition, we are running pilot projects for the telcos which combine solutions from Eltek, CIS and BA BGs together. This pilot project can be a 5G guide for edge infrastructure in the telecom sector.

In addition, Delta’s energy storage solutions and EV charging stations are our great door openers for different divisions/departments within Singapore’s largest utility company to whom we are already selling Eltek Industrial solutions to. So Delta’s vast product solution portfolio adds excellent opportunities for us in Singapore.

What are the top ways that COVID-19 has impacted your local and regional operations and what are the biggest challenges ahead that you foresee in the new normal?

The COVID-19 pandemic restricted travel in most countries. This obviously affects our operation in terms of production capacity and delivery.  Our production staff in Singapore are mainly from Malaysia, so they were unable to return to work due to the closed border.  Travel restrictions are not only limited to our operational workforce, it also hindered logistics and delivery to other countries and on-site installations. 

Looking at the COVID-19 situation now, we see it’s still spreading across countries and it seems like it’s becoming a protracted war.  We foresee the biggest challenge facing us to be project delay and limits to our support to other SEA countries. So we must keep our strong focus on telecom infrastructure, data center and industrial power business. On the other hand, we need to continue to explore new business opportunities like those in building automation and EVCS. For this, Delta Singapore is transforming to provide total solutions across different BUs to customers. 

Singapore plays an outsized role in Southeast Asia’s technological and economic development. Can you share any exciting projects your team is doing now in line with Singapore’s technological ambition?
สิงคโปร์กำลังดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาลในการเปลี่ยนเป็น Smart Nation ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัลที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้จึงมีโอกาสที่น่าตื่นเต้นมากมายสำหรับเดลต้า สิงคโปร์ ในแง่ของเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่ Delta BUBG หลายแห่งสามารถเข้าร่วมได้

ตัวอย่างเช่น เรากำลังดำเนินโครงการดาต้า เซ็นเตอร์ที่ไม่เพียงแต่จะใช้งานระบบไฟฟ้า CIS DCIM และ Eltek ของเดลต้าเท่านั้น แต่ยังมีกล้อง BA BG ของดล้ตา และระบบจดจำใบหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชั่นนี้อีกด้วย นอกจากนี้เรายังทำการตลาดอย่างหนักในเทคโนโลยีการทำฟาร์มอัจฉริยะของเราซึ่งรวมเอาโซลูชั่นด้านพลังงาน CIS BU ของเดลต้า สำหรับโครงการริเริ่มด้านการเกษตรของทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ

ในตลาดที่เต็มไปด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ เดลต้า สิงคโปร์จะมีข้อได้เปรียบอะไรในการแข่งขันและดึงดูดผู้มีความสามารถในระดับสูง?

เดลต้า สิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทที่เน้นเรื่อง R&D โดยมี Delta Research Center ด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพที่ NTU Singapore ในปี 2562 เดลต้า สิงคโปร์ ได้ลงนาม MOU กับหน่วยงานรัฐบาลของสิงคโปร์ JTC เพื่อส่งเสริมและช่วยเหลือลูกค้าของ JTC ในการเดินทางเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการนำเสนอความสามารถของเดลต้าในการนำเสนอโซลูชั่นด้านพลังงานที่ซับซ้อนและกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กว้างขึ้น

นอกจากนี้ Eltek ยังอยู่ในสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2540 และเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในหมู่บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่และเครือข่ายอุตสาหกรรมซึ่งยังคงดึงดูดความสนใจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องของเดลต้าในสิงคโปร์ เรามุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ดึงดูดผู้มีความสามารถเข้ามาร่วมงานกับเรา

คุณปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรของเดลต้าให้กับทีมของคุณอย่างไร?

เดลต้า สิงคโปร์มีจิตวิญญาณการทำงานเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เราเผชิญกับความท้าทายและแก้ไขปัญหาร่วมกันไม่ว่าเราจะทำงานในแผนกใดหรือ BU/BG ผมเชื่อมั่นว่าการสื่อสารที่เหมาะสมจะเป็นสะพานเชื่อมที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการถ่ายทอดวัฒนธรรมองค์กรไปยังทีม แม้จะมีความห่างเหินทางกายภาพ แต่เราเปิดรับเทคโนโลยีเพื่อให้มีการประชุมในแผนกและระหว่างแผนกอย่างสม่ำเสมอ และเรายังสร้างเพจ Delta Singapore ของเราเองในแพลตฟอร์ม DMS

เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว สิงคโปร์ดูเหมือนจะมีการดำเนินชีวิตที่รวดเร็วกว่ามาก คุณมีวิธีรักษาสมดุลชีวิตการทำงานอย่างไร?

“สมดุลชีวิตการทำงาน” กลายเป็นคำที่นิยมใช้ในสังคมปัจจุบัน ใช่ มันเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ให้ลงตัวเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งในด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจของทุกคน โดยส่วนตัวแล้วผมปฏิบัติตามตารางการทำงานในแต่ละวันอย่างเคร่งครัด ดังนั้น เวลาอาหารเย็นจึงเป็นเวลาอันมีค่าของผมที่จะได้ใช้ร่วมกับครอบครัวและพูดคุยกับลูก ๆ การออกกำลังกายยังทำให้ผมรู้สึกสดชื่นและผมสนุกกับการจ็อกกิ้งในตอนเย็น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และยังทำกิจกรรมกลางแจ้งกับครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย

คุณเล่นจัดสรรระหว่างเวลางานกับครอบครัวอย่างไร?ผมเป็นคุณพ่อลูกสี่ ดังนั้น ครอบครัวและงานจึงมีความสำคัญเท่า ๆ สำหรับผม ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดสรรเวลากับงานที่วุ่นวายในแต่ละวัน และรับมือกับความกดดันตอนที่รับหน้าที่ในการดูแลเด็ก ๆ นอกสำนักงาน นั่นคือเหตุผลที่การบริหารเวลามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ผมรู้สึกขอบคุณมากที่มีภรรยาที่ยอดเยี่ยมที่คอยสนับสนุนผมมาตลอด เธอดูแลครอบครัวของเราและทำให้ผมมีสมาธิในการทำงานอย่างเต็มที่

อะไรคือคุณสมบัติแรกที่คุณมองหาในผู้นำการพัฒนาธุรกิจของคุณที่ทำให้เดลต้าประสบความสำเร็จทั้งในสิงคโปร์และภูมิภาค?

ผู้นำต้องคิดและทำในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อทีมไม่ใช่เพื่อตัวเองเท่านั้น การเป็นผู้นำที่โดดเด่นต้องเสียสละ มีวินัยอย่างมาก และมีความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ นอกเหนือจากคุณสมบัติเหล่านี้แล้วพวกเขายังต้องมีสมาธิและมีความมั่นใจในตังเอง ผู้นำต้องมีความซื่อสัตย์เป็นอย่างมากและสามารถสร้างแรงบันดาลใจและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผู้นำที่ยอดเยี่ยมนั้นจะต้องสื่อสารคุณลักษณะที่ดีให้กับทีมของเขาอยู่เสมอ

มีอะไรที่คุณอยากจะแบ่งปันกับเพื่อนร่วมงาน Eltek และเดลต้าทั่วโลกหรือไม่?

ในช่วงเวลาไม่ปกติแบบนี้ เราทุกคนต้องเผชิญกับผลกระทบที่รุนแรงของโควิด-19 ความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นนำมาซึ่งความท้าทายมากมาย อย่างไรก็ตามเดลต้าเป็นบริษัทที่มีความยืดหยุ่น เป็นองค์กรที่มีข้อมูลเชิงลึกและมีความสามารถที่พร้อมจะพาเราผ่านพ้นวิกฤต

อย่าลืมว่าเรายังต้องรับผิดชอบต่อบริษัท ชุมชนและครอบครัวของเรา ฉะนั้น ทุกคนโปรดรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดี เราสามารถสร้างความแตกต่างได้โดยการปฏิบัติตามความรับผิดชอบต่อสังคม ทุกคนต้องสวมหน้ากากเพื่อป้องกันตัวเองและหลีกเลี่ยงฝูงชนในช่วงเวลานี้ ขอขอบคุณทุกคน!

David Nakayama

เกี่ยวกับผู้เขียน (ทีมบรรณาธิการ)

David Nakayama

หากคอนเทนต์คือราชา ซึ่งแน่นนอนว่าต้องมีผู้สร้างราชา และธีมโปรดในบทความของผมคือความปรารถนาของมนุษย์ที่จะเป็นอิสระ ผมจบปริญญาโทในสาขาการศึกษาภาษาจีน และมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมในหลายประเทศ ในฐานะที่เป็น Comms ของเดลต้า ประเทศไทย ผมมีความสนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังของผลิตภัณฑ์และผู้คนของเรา สามารถแบ่งปันเรื่องราวของคุณกับผมได้ที่ https://www.linkedin.com/in/yushi-david-nakayama/

แชร์ facebook linkedin

ร่วมแสดงความเห็น

แสดงความคิดเห็น next