โดย Delta Thailand - เผยแพร่เมื่อ กันยายน 24, 2567
ปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในการเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปีแห่งความก้าวหน้าและความสำเร็จ นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2531 ในฐานะบริษัทต่างประเทศแห่งแรกของกลุ่มบริษัท เดลต้าประเทศไทย ได้กลายเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์กำลังไฟฟ้าของประเทศไทย และเป็นผู้นำระดับโลกด้านความยั่งยืน เมื่อเราทบทวนความสำเร็จที่ผ่านมา เรามองไปข้างหน้าสู่อนาคตที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเต็มไปด้วยโอกาสในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกต่อไป
บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดงานกาล่าดินเนอร์ฉลองความสำเร็จและความก้าวหน้าครบรอบ 35 ปี ณ โรงแรม ดิ แอทธินี กรุงเทพฯ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2531 เดลต้า ประเทศไทย เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์กำลังไฟฟ้าของประเทศไทย ในการมอบโซลูชันอุตสาหกรรมที่หลากหลายและสนับสนุนการพัฒนาแบบยั่งยืน โดยงานกาล่าดินเนอร์ จัดขึ้นภายใต้ธีม “Est. 1988” เพื่อรำลึกถึงปีแรกที่เดลต้าเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ภายในงานจะผสมผสานบรรยากาศแห่งยุค 80 ที่ชวนคิดถึง เข้ากับวิสัยทัศน์แห่งอนาคต แขกผู้มาร่วมงานทุกท่านได้ถูกพาย้อนเวลากลับไปในยุค 80 ผ่านการแสดงสุดคลาสสิก แสงนีออนที่สวยงาม เกมส์อาร์เคด และของที่ระลึกที่ชวนหวนนึกย้อนไปถึงกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงนับทศวรรษ
งานกาล่าดินเนอร์นี้จัดขึ้นเพื่อให้เกียรติแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนเดลต้ามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา อาทิ คณะตัวแทนภาครัฐบาล ซัพพลายเออร์ ลูกค้า และสื่อมวลชน โดยบรรยากาศภายในงานช่วงเย็นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน พร้อมกับอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย อีกทั้งยังมีการแสดงและกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษ พร้อมเกมตอบคำถามที่ให้แขกผู้มาร่วมงานได้ใกล้ชิดกับเดลต้า ประเทศไทย และย้อนไปยังบรรยากาศแห่งปีพ.ศ. 2531 หรือยุค 80 อีกด้วยนายเจมส์ อึ้ง ประธานกรรมการบริษัทเดลต้า ประเทศไทย กล่าวแสดงความยินดีให้กับการเดินทางตลอด 35 ปีของบริษัทว่า “เดลต้า ประเทศไทย เริ่มต้นขึ้นจากสำนักงานเล็ก ๆ ในกรุงเทพฯ ปัจจุบัน เราเติบโตขึ้นจนกลายเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดอ้างอิงตามมูลค่าตลาดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีรายได้ประจำปี 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในปีพ.ศ. 2566 ความสำเร็จของเราคือเครื่องพิสูจน์ถึงความไม่ย่อท้อและความมุ่งมั่นในนวัตกรรม จึงทำให้เราสามารถขยายธุรกิจไปทั่วโลกและเปิดโรงงานรวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งที่ 8 ในปีนี้” นอกจากนี้ นายอึ้ง ยังตระหนักถึงบทบาทสำคัญของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน อาทิ พนักงาน ลูกค้า และพันธมิตร ที่เป็นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของบริษัทว่า “เราหวังว่าจะได้สานต่อการเดินทางนี้ไปด้วยกันพร้อมก้าวสู่อนาคตด้วยความมั่นใจ”
นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัทเดลต้า ประเทศไทย กล่าวว่า “เนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี ด้านความเป็นเลิศและนวัตกรรม เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาโซลูชันที่ล้ำสมัยและยั่งยืนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ในอนาคต เรายังคงสานต่อความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ”
เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2531 โดยเป็นสำนักงานต่างประเทศแห่งแรกของเดลต้า กรุ๊ป ที่ช่วยปูทางให้บริษัทเติบโตจนกลายเป็นผู้ให้บริการระดับโลกด้านโซลูชันการจัดการพลังงานและความร้อน โดยเริ่มต้นจากการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงผลิตภัณฑ์แรกอย่าง Magnetic และ EMI ฟีลเตอร์ ซึ่งให้บริการแก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและยานยนต์ทั่วโลก
ในปีพ.ศ. 2538 เดลต้า ประเทศไทย ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม โดยปัจจุบัน เดลต้า ประเทศไทย มีมูลค่าตลาดสูงสุดในกลุ่มบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญในกลุ่มบริษัทเดลต้า ด้วยรายได้รวมเกินกว่า 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553 เดลต้า ประเทศไทย ได้ผลิตผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งโรงงานแห่งใหม่ของเดลต้า (โรงงาน 8) ที่มีกำหนดเปิดในปีพ.ศ. 2567 จะช่วยตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ และช่วยสนับสนุนตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่นี้จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งจะนำประโยชน์มากมายมาสู่อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย
ความมุ่งมั่นเพื่อความเป็นเลิศของเดลต้า ประเทศไทย ได้รับการยอมรับในปี 2555 และ 2566 เมื่อได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมจากนายกรัฐมนตรี เพื่อยกย่องเป็นบริษัทฯ ที่มีความเป็นเลิศในด้านพลังงาน นวัตกรรม ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน (CSR)
ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2564 ถึง 2566 เดลต้า ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีชื่อเสียงระดับโลกสำหรับผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยเดลต้า ประเทศไทย ยังคงเป็นบริษัทไทยเพียงแห่งเดียวในดัชนี DJSI ในกลุ่มอุตสาหกรรม “อุปกรณ์ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ITC” และอยู่ในรายชื่อ DJSI World นั้น ยิ่งตอกย้ำถึงบทบาทความเป็นผู้นำของเดลต้า ประเทศไทย ในด้าน ESG ในอุตสาหกรรม รวมถึงโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน การพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่น และการริเริ่มต่อต้านการทุจริต
ความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างนวัตกรรมและความยั่งยืนสะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจของเดลต้า ประเทศไทยที่ว่า “มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า” เมื่อมีการขยายพอร์ตโฟลิโอ เดลต้า ประเทศไทย ก็พร้อมที่จะก้าวสู่บทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการกำหนดอนาคตของตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเสริมสร้างชื่อเสียงในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการเปลี่ยนแปลงสู่โลกที่ยั่งยืนและมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น
ในการเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ ความสำเร็จของเดลต้า ประเทศไทยไม่ได้วัดกันที่ตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่ยังวัดกันที่บุคลากรที่ทำให้ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน พันธมิตร และลูกค้าของเรา การเดินทางของเราในช่วง 35 ปีที่ผ่านมาได้รับการหล่อหลอมด้วยนวัตกรรม ความมุ่งมั่น และความร่วมมือ และเมื่อเรามองไปยังอนาคต ค่านิยมเดียวกันนี้จะนำทางเราไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า ขอให้เราประสบความสำเร็จใน 35 ปีข้างหน้า และจะมีอีกมากในอนาคต ในฐานะที่เรายังคงเป็นผู้นำในการสร้างอนาคตที่ดีกว่า