เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง ความเป็นผู้นำก็เริ่มต้นขึ้น เรื่องราวของ ปราโมทย์ โมรา ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศการผลิต

สำหรับฉบับนี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับบุคคลหนึ่งที่มักจะที่เริ่มต้นวันทำงานอย่างกระตือรือร้นตั้งแต่เช้าตรู่ ขณะที่หลายคนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเช้าวันใหม่ พบกับนายปราโมทย์ โมรา ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศประจำสายการผลิต ผู้ที่อยู่กับเดลต้ามาเกือบ 30 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงทั้งความเชี่ยวชาญทางเทคนิคอย่างลึกซึ้ง และภาวะผู้นำที่เงียบขรึม มั่นคง อันหยั่งรากอยู่บนความเข้าใจและความเชื่อมโยงระหว่างผู้คน

นับตั้งแต่เข้ามาทำงานที่เดลต้าในปี 2541 ปราโมทย์ได้เห็นทุกการเปลี่ยนผ่านสำคัญขององค์กร ตั้งแต่ยุคการผลิตแบบดั้งเดิมสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล จากกลยุทธ์ในประเทศสู่การประสานงานระดับโลก แต่สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่น ไม่ใช่แค่ความสามารถในการนำพาการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่คือวิธีที่เขาทำด้วยความสุขุม มั่นคง และเปี่ยมด้วยสติปัญญา ปราโมทย์คือผู้นำที่ได้รับความไว้วางใจ ไม่ใช่จากอำนาจหรือตำแหน่ง แต่จากความเสมอต้นเสมอปลาย และการยืนหยัดเป็นแบบอย่างอย่างเงียบสงบตลอดมา

จากระบบสู่การทำงานร่วมกัน

ก่อนจะเข้ามาทำงานที่เดลต้า ปราโมทย์ทำงานอยู่ในจุดเชื่อมต่อระหว่างระบบไอทีกับการผลิต สำหรับเขาแล้ว ความเป็นผู้นำในปัจจุบันไม่ใช่คำสั่งจากเบื้องบนอีกต่อไป แต่คือความท้าทายของ “ระบบ” ที่มีรากฐานมาจาก “ผู้คน”

“มันไม่ใช่แค่เรื่องของเครื่องจักรเท่านั้น” เขากล่าว “แต่มันคือเรื่องของระบบที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน และนั่นก็คือแนวทางที่ผมยังใช้ในการนำทีมมาจนถึงทุกวันนี้”

ท่ามกลางการดำเนินการผลิตที่ซับซ้อน เขาเป็นผู้ดูแลและให้คำแนะนำทีมงานที่ออกแบบและดูแลแพลตฟอร์มของสายการผลิตของโรงงาน ด้วยกระบวนการดำเนินงานหลายขั้นตอน การประสานงานระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า เขาให้ความสำคัญกับคนประเภทใดมากที่สุดในทีม คำตอบของเขากลับเรียบง่ายอย่างน่าประหลาดใจ
“เราไม่ได้ต้องการคนที่เก่งแค่เทคนิคอย่างเดียว” เขากล่าวต่อ “เราต้องการคนที่สื่อสารได้ดี ประสานงานกับทีมอื่นได้ ทำงานร่วมกับฝ่ายผลิตได้ และสร้างความเข้าใจร่วมกันได้”
ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้วยความเข้าอกเข้าใจ
ที่เดลต้า ระบบภายในเกือบทั้งหมดถูกออกแบบขึ้นโดยเฉพาะเพื่อตอบโจทย์ความยืดหยุ่นในการทำงาน แม้จะมีข้อดี แต่ระบบเหล่านี้ก็มักจะซับซ้อนและยากต่อการอัปเกรด การจะนำการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมนี้ให้ประสบความสำเร็จ จึงต้องใช้มากกว่าความเชี่ยวชาญทางเทคนิคคือต้องอาศัย “ความฉลาดทางอารมณ์” ควบคู่กันไปด้วย

ปราโมทย์อธิบายว่า “การเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็นต้องมาจากคำสั่งของผู้บริหารเสมอไป หากเราต้องการให้ผู้คนยอมรับการเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องแสดงให้พวกเขาเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นดีอย่างไร และช่วยให้พวกเขาเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้เราดีขึ้นได้อย่างไร”

แนวทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของเขาที่ว่า คนส่วนใหญ่ต้องการให้องค์กรประสบความสำเร็จ เขากล่าวว่าในมุมมองของเขา หน้าที่ของผู้นำไม่ใช่การสั่งการหรือบังคับ แต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจ

จังหวะที่สร้างมาเพื่อความพร้อม จังหวะชีวิตที่พร้อมรับมือในทุกเช้า
ปกติแล้วการทำงานของปราโมทย์เริ่มต้นก่อนเวลาทำงาน เขามาถึงโรงงานประมาณ 6.50 น. หรือเร็วกว่านั้น และเริ่มต้นวันด้วยการเปิดอีเมล ตรวจสอบงานที่ยังค้างอยู่ และจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำ

“ถ้ายังไม่ได้ทานข้าว ผมจะตรงไปที่โต๊ะก่อนเลย เริ่มเช็กงานก่อน แล้วค่อยหาอะไรทานรองท้องทีหลังแบบเร็วๆ” เขากล่าว

แม้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ยังคงตื่นเช้าเป็นกิจวัตร เริ่มวันใหม่ด้วยกาแฟ iPad ข่าวสาร และช่วงเวลาสงบส่วนตัว เพื่อปรับสมดุลจิตใจให้พร้อมรับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า จังหวะชีวิตที่มีแบบแผนนี้ ช่วยให้เขารับมือกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงเร็วและเต็มไปด้วยความท้าทายได้อย่างมั่นคง

ก้าวไปกับเดลต้าท่ามกลางความรวดเร็วและเป็นสากล
การเติบโตของเดลต้าได้นำมาซึ่งความเร็ว ความหลากหลาย และความซับซ้อนในกระบวนการทำงานมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับปราโมทย์ นี่ไม่ใช่อุปสรรคแต่เป็นวิวัฒนาการที่น่าตื่นเต้น

“ตอนนี้มีคนมากขึ้น มีหลากหลายสัญชาติ และบางครั้งงานโครงการต่าง ๆ ก็ไม่มีคำอธิบายที่ละเอียด” เขากล่าว “แต่เรารู้ว่างานมันต้องสำเร็จให้ได้”

หนึ่งในพื้นที่ที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างชัดเจน คือแพลตฟอร์มการผลิตดิจิทัล ที่ปราโมทย์ต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมจากไต้หวันและจีน ซึ่งต้องอาศัยทั้งความยืดหยุ่นและความเข้าใจในวัฒนธรรมการทำงานที่แตกต่างกัน

“เราไม่ได้สร้างระบบเหล่านี้ขึ้นมาเอง” เขาอธิบาย “เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามมองจากมุมของเขา เรียนรู้ และปรับตัวไปพร้อมกัน”
ช่วงเวลาแห่งความหมายและเชื่อมโยงกัน

สำหรับปราโมทย์ ช่วงเวลาที่ทรงพลังที่สุดในการทำงานแต่ละวัน มักเกิดขึ้นในยามวิกฤต เพราะนั่นคือช่วงเวลาที่ระบบเกิดปัญหา หรือต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วน ช่วงเวลานี้แหละที่เขาจะรู้สึกเชื่อมโยงและเข้าถึงกับทีมได้มากที่สุด

“ช่วงเวลาที่ทุกคนรวมพลังกัน คือช่วงเวลาที่เราจะได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของเรา”
ปราโมทย์ยังให้ความสำคัญกับการเห็นคุณค่าในความพยายามของทีมด้วยวิธีที่จริงใจและสัมผัสได้ ซึ่งก็คือการกล่าวชื่นชมต่อหน้า แบบตรงไปตรงมา

“คำชมที่เอ่ยต่อหน้ากันอย่างจริงใจ มักจะตราตรึงอยู่ในใจได้นานแสนนาน และสามารถให้กำลังใจได้อย่างแท้จริง”

เขายังคงจำเหตุการณ์ในปี 2546 ตอนที่ทีมของเขาได้รับเลือกให้รับผิดชอบโครงการใหญ่ ผู้จัดการของเขากล่าวว่า “เรากำลังส่งคนเก่งที่สุดของเราไป” คำพูดในครั้งนั้นยังคงเป็นแรงผลักดันให้กับเขาจนถึงทุกวันนี้
ความกดดันที่ปราศจากภาระ

แม้บทบาทของเขาจะเต็มไปด้วยความเข้มข้นและความรับผิดชอบสูง ปราโมทย์ก็ยังใส่ใจอย่างมากว่าเขาจะรับมือกับความเครียดอย่างไร

“ถ้าผมรู้สึกเหนื่อยล้าหรือเครียด ผมก็จะไปออกกำลังกาย ผมจะไม่นำพลังงานที่ไม่ดีกลับไปบ้าน”

ในสถานการณ์กดดันที่ต้องตัดสินใจรวดเร็ว เขาจะสื่อสารอย่างชัดเจนและเด็ดขาด แต่หากมีเวลา เขาจะเลือกเปิดพื้นที่ให้พูดคุยกับทีมอย่างตรงไปตรงมา เพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และจะแก้ไขหรือดำเนินการต่อไปอย่างไร

ไอเดียจากความเงียบ

ไอเดียที่ดีที่สุดของเขามักไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมหรือการหารือเป็นกลุ่ม แต่มักจะเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่

“ช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวน ไม่มีใครขัดจังหวะ ช่วงนั้นแหละที่ผมคิดอะไรได้ชัดเจนที่สุด”

การทบทวนความคิดในยามเช้าเช่นนี้ ช่วยให้เขาก้าวนำอยู่เสมอในอุตสาหกรรมที่เน้นเรื่องเวลาในการตอบสนอง ซึ่งการใช้เวลาตอบสนองช้าเพียงเล็กน้อย อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่สร้างความแตกต่างระหว่างความสำเร็จกับความล้มเหลว

มองไปข้างหน้า พร้อมรับมือทุกความเปลี่ยนแปลง
สำหรับปราโมทย์ความคิดเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่ในวันนี้ เขามองไกลถึงสิ่งที่เดลต้าจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในระยะถัดไป

“ประเทศไทยกำลังกลายเป็นศูนย์กลางการผลิต เราต้องถามว่าเรามีคนเพียงพอหรือไม่ พวกเขามีทักษะที่เหมาะสมหรือไม่ เราสามารถสื่อสารภาษาไทย อังกฤษ และจีนได้อย่างคล่องแคล่วหรือไม่” เขากล่าว

คำถามเหล่านี้ คือสิ่งที่นำทางเขาไปสู่ก้าวต่อไป โดยไม่ใช่แค่การตามให้ทัน แต่คือการก้าวให้นำอยู่เสมอ
ภาคภูมิใจในความก้าวหน้า กระหายในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ในเส้นทางการทำงานของเขา มีหลายช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ หนึ่งในนั้นคือการได้รับเลือกให้เป็นผู้นำในช่วงการควบรวมกิจการครั้งสำคัญ และอีกครั้งคือเมื่อโครงการ Data Center ของเดลต้า ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของเขา ได้รับรางวัล ASEAN Energy Award 2024

“เป็นช่วงเวลาที่ภูมิใจมาก” เขากล่าว “เพราะมันแสดงให้เห็นว่า ถ้าเราทำงานร่วมกัน เราสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้จริง ๆ”

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความสำเร็จที่น่าประทับใจ เขากลับไม่ยึดติดกับอดีตหรือรางวัลใด ๆ ว่าเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ
“ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก ผมพยายามเรียนรู้จากคนรอบตัวทุกวัน”

ครอบครัวเป็นเหมือนรากฐาน

นอกเวลาทำงาน ปราโมทย์พบความสุขในความเรียบง่าย เวลาที่ได้อยู่กับครอบครัว การได้ทานอาหารนอกบ้าน ทริปสั้นๆ หรือการเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าในช่วงสุดสัปดาห์คือวิธีที่เขาใช้ผ่อนคลายและเชื่อมต่อกับครอบครัว

“เราไม่ต้องการอะไรใหญ่โต การได้อยู่ด้วยกันต่างหากที่สำคัญ”

พลังอันเงียบสงบที่ขับเคลื่อนเดลต้าไปข้างหน้า

ความเป็นผู้นำไม่ได้จำเป็นต้องประกาศตัวเองเสมอไป บางครั้ง มันก็คือการมาแต่เช้าอย่างเงียบๆ แต่สม่ำเสมอ ยืดหยัดมั่นคง รับฟังผู้อื่น และแสดงออกผ่านการกระทำ นายปราโมทย์ โมราเป็นผู้นำในแบบนั้น ประเภทที่เงียบ นิ่ง แต่ทุ่มเทอย่างสุดตัวเพื่อสิ่งที่มากกว่าการทำงาน คือเพื่อผู้คนที่เขาทำงานด้วยกันทุกวัน

ในขณะที่เดลต้ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การมีเขาอยู่ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอยู่เสมอว่าความแข็งแกร่งไม่จำเป็นต้องส่งเสียงดังเสมอไป บางครั้งความแข็งแกร่งอาจคือความเงียบที่มั่นคง และคือใครบางคนที่พร้อมเริ่มลงมือ ตั้งแต่ก่อนที่โลกจะเริ่มขยับตาม

เกี่ยวกับผู้เขียน (ทีมบรรณาธิการ)

Delta Thailand

แชร์