ประจำภูมิภาคอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย
สำหรับครอบครัวเดลต้าที่เพียรพยายามในการทำงาน
ประจำภูมิภาคอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย
คุณโอเคจริงๆใช่ไหม? บทความพิเศษในวันสุขภาพจิตโลก
โดย David Nakayama - เผยแพร่เมื่อ พฤศจิกายน 11, 2564
เราทุกคนต่างกำลังก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก นั่นเป็นเหตุผลที่วันที่ 10 ตุลาคม วันสุขภาพจิตโลกเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเรียนรู้ให้มากขึ้นถึงความสำคัญของสุขภาพจิต สร้างความตระหนักรู้และต่อต้านการตีตราจากสังคมที่ห้ามไม่ให้เราขอความช่วยเหลือ
วันสุขภาพจิตโลกถือกำเนิดขึ้นในปี 1992 โดยสหพันธ์สุขภาพจิตโลก ซึ่งวันสุขภาพจิตนี้มีความสำคัญมากขึ้นในยุคของโควิดและการที่ต้องเว้นระยะห่างออกจากกัน ในบทความที่แล้ว เราได้เน้นถึงความสำคัญของการตระหนักรู้ถึงสัญญาณเตือนและการดูแลสุขภาพจิตของตนเองและผู้อื่น
วันนี้เราพบพนักงานหญิงสองคนของเดลต้าที่ตระหนักถึงเรื่องนี้และพวกเธอก็จะมาแบ่งปันเรื่องราวและเคล็ดลับเพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
ค้นหาสมดุลชีวิตและความสงบที่เดลต้า
บทความโดย Supitsara Wichettapong, DET Logistics
ก่อนที่ฉันจะมาทำงานกับเดลต้า การดำเนินชีวิตประจำวันของฉันไม่ค่อยได้รับการจัดการที่ดี ในฐานะพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เป็นเรื่องยากมากที่จะใช้ชีวิตปกติเนื่องจากต้องปรับตัวตามโซนเวลา สภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อยู่เสมอ ฉันมีปัญหาในการนอนและไม่สามารถพักผ่อนทั้งทางร่างกายและจิตใจได้อย่างเต็มที่
การเข้ามาทำงานที่เดลต้าทำให้ฉันมีตารางชีวิตและมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้น นาฬิกาชีวิตของฉันทำงานได้ดีกว่าเมื่อก่อนและพฤติกรรมการกินของฉันก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยให้ฉันมีสุขภาพจิตและประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น
ในช่วงวันปกติ ด้วยชั่วโมงทำงานที่ยาวนานขึ้น นั่นหมายความว่าฉันต้องการการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอเพื่อช่วยให้สมองและร่างกายฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ และให้พลังงานแก่ฉันเพื่อผ่านพ้นวันที่ยาวนานนี้ ฉันพยายามนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวัน การทำงานที่นี่ค่อนข้างท้าทาย เนื่องจากเราค่อนข้างยุ่งอยู่เสมอ เวลาเครียดก็พยายามขยับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการนั่งท่าเดิมหลายชั่วโมง ฉันพยายามแก้อาการปวดหัวโดยการหลับตา หายใจเข้าลึก ๆ หรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน
หลังเลิกงาน ฉันสามารถแวะซื้อของเข้าบ้าน ทำงานบ้าน หรือหาอะไรดูในขณะที่นอนเหยียดเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัยหลังจากนั่งทำงานมา 9-10 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่ฉันชอบมากที่สุดคือตอนที่ฉันเจอเพื่อนและครอบครัว การพูดคุยกับพวกเขา การแบ่งปันเรื่องตลกและเสียงหัวเราะช่วยให้ฉันหายเครียด นอกจากนี้ ฉันยังพยายามหาเวลาออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงและนอนหลับได้สนิท
ฉันพยายามไม่นำงานกลับมาทำที่บ้าน เพราะว่าฉันชอบที่จะใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์กับตัวเองในการทำสิ่งที่ทำให้ฉันมีความสุขหลังจากทำงานหนักมาทั้งสัปดาห์ ฉันจะสนุกกับการช้อปปิ้ง หาร้านอาหารใหม่ ๆ หรือออกไปเที่ยว บางครั้งฉันจะใช้เวลาช่วงบ่ายที่สวนสาธารณะหรือที่โอเอซิสในเมืองเพื่อเรียกเหงื่อและสูดอากาศบริสุทธิ์
เพราะเราใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงาน ฉันจึงอยากจะแนะนำให้ทุกคนหาสภาพแวดล้อมที่ดี พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของคุณเพราะพวกเขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สถานที่ทำงานมีความสุข เมื่อเรามีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เราก็สามารถรับฟัง แบ่งปัน แนะนำ ให้กำลังใจ และสนับสนุนซึ่งกันและกันได้
เคล็ดลับสำหรับการรักษาด้านอารมณ์จากความพ่ายแพ้ในชีวิต
บทความโดย Natchaya Mienklang, DET Finance
ในตอนที่ฉันคิดว่าฉันกำลังใช้ชีวิตตามที่ฝันและมีชีวิตอย่างที่วางแผนไว้อย่างดี แต่กลับมีบางอย่างได้พรากมันไปตลอดกาล ใช่ ฉันกำลังพูดถึงโควิด-19 ฉันคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิตของฉัน ในตอนที่ฉันถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่า “ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า? ฉันควรทำอย่างไรต่อไปดี” ทันใดนั้นฉันรู้ได้เลยว่าไม่ได้มีฉันอยู่คนเดียวที่คิดแบบนี้ อันที่จริงประชากร 7,000 ล้านคนทั่วโลกกำลังทุกข์ทรมานจากวิกฤตครั้งนี้ นี่ไม่ใช้เส้นทางชีวิตที่ผิด แต่มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต
ก่อนหน้านี้ฉันทำงานอย่างมีความสุขในภาคบริการ แต่สิ่งนี้กลับพังทลายลงเพราะโควิด-19 เมื่อชีวิตฉันมาถึงทางแยก ฉันตัดสินใจลาออกและตื่นจากความฝันเพื่อเผชิญหน้ากับโลกแห่งความจริง การหางานใหม่ทำให้ฉันรู้ได้ทันทีเลยว่าการเปลี่ยนสายงานเป็นเรื่องยากกว่าที่คิด! ฉันสมัครงานกับบริษัทมากกว่า 30 แห่ง และโชคดีที่เดลต้าให้โอกาสที่ยอดเยี่ยมในการกลับมาทำงานด้านการเงินที่ฉันทิ้งไปแล้วกว่า 4 ปี
หลังจากที่ฉันได้งานที่เดลต้า ฉันก็เริ่มจัดระเบียบแผนการในชีวิตใหม่และตั้งเป้าหมายด้วยความมุ่งมั่น ฉันมุ่งเน้นไปที่การทำให้ตัวเองปลอดภัยจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ชีวิตของฉันมีการเริ่มต้นใหม่ และฉันก็ตระหนักว่าไม่ว่าจะล้มเหลวสักกี่ครั้ง ยิ่งลุกขึ้นเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะเริ่มชีวิตใหม่ที่สวยงามได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น
ฉันจะมาแบ่งปันวิธีการหนีออกจากความโหดร้ายของความสิ้นหวัง อย่างแรกเลย คุณต้องลงทุนในสุขภาพจิตที่ดีด้วยการหาวิธีที่จะมีความสุข ผ่อนคลาย ปลดปล่อยความตึงเครียดและความกดดัน จากนั้นคุณจะพบสิ่งที่คุณควรทำ แต่เราจะอยู่ในสภาวะที่มีสุขภาพจิตดีได้อย่างไร? ทุกคนมีวิธีการของตัวเอง แต่คุณสามารถลองใช้เคล็ดลับง่าย ๆ 3 ข้อเพื่อเริ่มต้นการบำบัดด้านอารมณ์ของคุณได้
เคล็ดลับที่ 1: หาหนังสือและคำแนะนำดี ๆ การอ่านหนังสือ การฟังพอดแคสต์ หรือแม้แต่การพูดคุยกับใครสักคนเพื่อปลุกความมุ่งมั่นในตัวคุณขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพูดคุยกับตัวเองทุกวันเพื่อเข้าใจตัวเองและค้นหาสิ่งที่คุณคิดและต้องการจริง ๆ
เคล็ดลับที่ 2: มองหาความสนใจของคุณ ฉันใช้ Pinterest เพื่อค้นหาสิ่งที่ฉันหลงใหล ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันชอบทำเมื่อรู้สึกหมดไฟ ตัวอย่างเช่น ฉันมักจะค้นหาเกี่ยวกับการออกแบบและตกแต่งภายในเพื่อเป็นไอเดียสำหรับบ้านในฝันของฉันหรือสถานที่ที่ฉันอยากไปเยือนสักครั้ง ภาพเหล่านั้นช่วยให้ฉันมองเห็นเป้าหมายในชีวิตและก้าวข้ามความรู้สึกแย่ ๆ ดังคำกล่าวที่ว่า “หากมีเจตจำนงก็ย่อมมีทางไป”
เคล็ดลับที่ 3: ดูแลตัวเองบ้าง การออกไปช้อปปิ้ง เพลิดเพลินกับอาหารดี ๆ หรือการท่องเที่ยว ฉันคิดว่านี่เป็นเคล็ดลับที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพราะสิ่งนี้เหมือนรางวัลที่เป็นรูปธรรมสำหรับตัวคุณเอง
ฉันเชื่อว่านี่คือทั้งหมดเกี่ยวกับการเรียนรู้ที่จะปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความเคารพ ความรักตัวเอง ให้อภัยตัวเอง และการตามใจตัวเอง (ในบางครั้ง) และจงอย่าถามหาความสมบูรณ์แบบในโลกที่ไม่สมบูรณ์นี้
ฉันยังยืนยันว่าแม้โควิด-19 จะไม่มีวันเป็นความทรงจำที่ดี แต่มันก็สอนอะไรฉันหลายอย่าง และฉันยังมีชีวิตอยู่เพื่อพิสูจน์ว่า “มันก็จะผ่านไปเช่นกัน” จำไว้ว่าถ้าคุณเอาแต่ทำตัวเป็นเหยื่อ คุณจะไม่มีวันมีความสุข! เรามาเปลี่ยนมุมมองและกล้าที่จะยอมรับชีวิตที่มีความสุขกันดีกว่า โชคดีนะทุกคน
